ที่นี่เป็นการผสานกันระหว่างฝรั่งเศสยุคกลางและเทือกเขาแอลป์ฝั่งฝรั่งเศส กลายเป็นเมืองอันงดงามที่ตั้งอยู่ฝั่งตอนเหนือของทะเลสาบป่าสน พบกับปราสาทเก่าแก่หลายร้อยปีของ Annecy เดินสำรวจไปตามถนนหินกรวดสายแคบๆ แล้วต่อด้วยการเดินป่าและเล่นสกีตามภูมิทัศน์แห่งภูเขาอันงดงาม
ส่วนที่เป็น Old Town ของ Annecy นั้นมีถนนสำหรับคนเดินโดยเฉพาะ มีลำคลองหลายแห่งทอดยาวกั้นและสองข้างทางก็เต็มไปด้วยร้านค้าบูติกและร้านอาหารที่เปิดโล่ง แนะนำให้มาวันอังคาร ศุกร์หรืออาทิตย์ตอนเช้าเพื่อชมบรรยากาศตลาดอาหารอันคึกคัก
จากนั้น ไปต่อที่จุดท่องเที่ยวหลักของเมือง นั่นคือ Château d’Annecy ซึ่งเป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่มีอายุเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 12 และครั้งหนึ่งเคยเป็นที่พำนักของขุนนางแห่งเจนีวามาก่อน เดินขึ้นไปยังหอคอยเพื่อชมวิวพาโนรามาของเมืองและทะเลสาบ หลังจากชมห้องแต่ละห้องที่จัดแสดงผลงานศิลปะ ประติมากรรม ภาพวาดและวัตถุโบราณเชิงประวัติศาสตร์แล้ว ไปกันต่อที่ Palais de L'Ile พระราชวังยุคกลางแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะบริเวณคลองของเมือง ถ้าอยากชมความงามของสถาปัตยกรรมยุคกลางอีก ต้องมาที่ Château de Menthon ซึ่งเป็นป้อมสมัยศตวรรษที่ 12 ที่ตั้งอยู่บนทิวเขาหินที่ยื่นออกมาทางฝั่งตะวันออกของทะเลสาบ Annecy ห้อมล้อมด้วยป่าเขา
ลองใช้เวลาพักผ่อนที่ทะเลสาบ ที่นี่มีแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ที่ว่ากันว่าเป็นแหล่งน้ำจืดซึ่งบริสุทธิ์ที่สุดในยุโรป และยังเป็นจุดทำกิจกรรมมากมาย เช่น การว่ายน้ำ ล่องเรือ เล่นสกีน้ำและดำน้ำ ริมน้ำส่วนมากที่ติดกับเมืองเก่าจะมีท่าเทียบเรือด้วย แต่ชายหาดขนาดเล็กอย่าง Plage de Annecy จะอยู่ชายฝั่งทิศตะวันออก ลองเช่าจักยานและปั่นไปตามเส้นทางที่ทอดตัวขนานไปกับทะเลสาบ
มุ่งหน้าไปยังเทือกเขาแอลป์ที่ห้อมล้อมทะเลสาบเพื่อทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ในช่วงเดือนที่อากาศอบอุ่น แนะนำให้เดินป่าหรือขี่ม้าไปตามเส้นทางในป่าเขียว ส่วนสกีหรือการเล่นหิมะที่นี่เหมาะสำหรับช่วงหน้าหนาว นอกจากนี้ยังมีทัวร์พร้อมไกด์ที่ Gorges du Fier เป็นหุบเขาลึกแคบๆ ที่อยู่ห่างจาก Annecy ไปทางตะวันตกประมาณ 10 กิโลเมตร
เดินทางมายัง Annecy ได้โดยการนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินนานาชาติเจนีวา ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 40 นาทีโดยการขับรถ เมื่อคุณเห็นภูเขา ลำคลองและปราสาทอย่างนี้ ก็คงจะเข้าใจแล้วว่าทำไม Annecy ถึงได้เป็นจุดพักผ่อนที่ทุกคนชื่นชอบ