ด้วยภูมิทัศน์ตามธรรมชาติอันงดงามและเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมชั้นดี ผสานกับเส้นทางเดินตามธรรมชาติและวัฒนธรรมคาเฟ่แบบง่ายๆ สบายๆ ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาที่เตรเมซโซได้อย่างมาก เมืองที่มีเสน่ห์เมืองนี้ทอดตัวตามแนวชายฝั่งตะวันตกกลางของทะเลสาบโคโม มียอดเขาสูงปนต่ำของภูเขา Crocione เป็นฉากหลัง และเบื้องหน้าเป็นแนวภูเขา Grigne
Tremezzo ขึ้นชื่อว่าเป็นที่ตั้งของวิลลาที่ดีที่สุดของทะเลสาบโคโม เริ่มจากคฤหาสน์วิลลา คาร์ลอตตาอันงดงามที่มีห้องต่างๆ ตกแต่งด้วยผลงานศิลปะชิ้นโบว์แดงสมัยปลายศตวรรษที่ 18 ถึงต้นศตวรรษที่ 19 โดยประติมากรชาวอิตาลีนามว่า Antonio Canova เดินเล่นในสวนสวยของบ้านพักตากอากาศซึ่งมักจะใช้เป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตกลางแจ้งในช่วงหน้าร้อน
เตรเมซโซมีความคล้ายคลึงกับเมืองอื่นๆ ในทะเลสาบโคโมตรงที่มีทางเดินริมน้ำอันสวยงามน่าเดิน ระหว่างที่เดินเล่น อย่าลืมชื่นชมคฤหาสน์สวยๆ สีพาสเทลที่มีหน้าต่างบานเกล็ด ระเบียงเหล็กดัด และด้านหน้าอาคารที่มีทางเดินหลังคาโค้ง หลายๆ อาคารกลายเป็นโรงแรม ร้านค้า คาเฟ่ ร้านขายไอศกรีม และร้านขายพิซซ่า นอกจากนี้ยังมีจุดสำคัญเชิงประวัติศาสตร์ ได้แก่ Chiesa di San Lorenzo (โบสถ์ซานลอเรนโซ) สมัยศตวรรษที่ 18
พักผ่อนบนม้านั่งริมน้ำแล้วเพลิดเพลินไปกับการชมวิวของ Bellagio และบริเวณทะเลสาบตอนกลาง นั่งชมเรือที่สัญจรไปมาและผู้โดยสารเรือเฟอร์รีที่เดินเข้าออกบริเวณท่าเรือ ลองนั่งเรือออกทัวร์เพื่อชมวิวของวิลลาประจำเมืองที่มีภูเขาเป็นฉากหลัง
นักท่องเที่ยวที่กระฉับกระเฉงสามารถเดินตามเส้นทางจากเมืองขึ้นไปยังหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ตีนภูเขา Crocione ที่หมู่บ้านเล็กๆ ในโรกาโรมีโบสถ์ Chiesa di Santa Maria (โบสถ์แห่งซานตามารีอา) ซึ่งมีสัญลักษณ์ของพระแม่มารีที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ด้วย แวะทานอาหารกลางวันหรืออาหารเย็นได้ที่ร้านอาหารพร้อมชมวิวของเมืองเตรเมซโซและทะเลสาบ ส่วนที่อยู่ไกลออกไปนั้นเป็นเส้นทางเดินป่าข้ามเนินเขาไปยังหมู่บ้าน Cadenabbia และ Griante
คุณสามารถเดินทางไปยังเตรเมซโซได้ด้วยรถประจำทางจากโคโม หรือจะนั่งเรือหรือเรือเฟอร์รีจากเมืองอื่นๆ บริเวณทะเลสาบโคโมแล้วเดินต่อมายังที่นี่ก็ได้ ในช่วงหน้าร้อน ลองขึ้นรถไฟจากที่นี่ไปยังเมืองใกล้ๆ เช่น เมืองเลนโน และเมืองเมนัจโจ