เดินทางมาเยือนเมืองชางวอนอันทันสมัยเพื่อเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรีต่างๆ เลือกซื้อของในห้างและตลาดอันคึกคัก หรือหลีกหนีความวุ่นวายไปปีนเขาซึ่งอยู่ใกล้ๆ แถมเมืองนี้ยังมีเขตรักษาพันธุ์นกย้ายถิ่นขนาดใหญ่ที่สุดในเกาหลีและชายหาดน่าเที่ยวหลายแห่ง
เมืองชางวอนออกแบบและสร้างขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970 ผสมผสานทั้งความหรูหราอันทันสมัยและพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ซึ่งชาวเกาหลียุคใหม่ต้องการ เมืองชางวอนมีถนนทางตรงที่ยาวที่สุดในประเทศซึ่งยาวถึง 15.3 กิโลเมตร อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมไฮเทคที่ใหญ่ที่สุดหลายชนิดของเกาหลีด้วย
เมืองนี้แบ่งออกเป็นห้าเขตหลัก แต่ละเขตจะมีจุดเด่นของตัวเอง มุ่งหน้าไปยังซังนัมดงที่อยู่ใจกลางเพื่อพบกับแหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหารชั้นเยี่ยม ไปต่อที่ “เมืองเก่า” จุงอังดงซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่แสนคึกคัก ระบบรถประจำทางที่ครบวงจรจะพาคุณไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ แต่วิธีที่ดีที่สุดคือการใช้บริการจักยานนูบิจา ซึ่งเป็นบริการเช่าจักรยานสาธารณะที่มีอยู่ทั่วเมือง
ชางวอนได้รับการวางผังเมืองให้มีสวนสาธารณะและพื้นที่สีเขียวหลายแห่ง คุณจะได้เจอมุมสบายๆ ให้นั่งพักตลอดเส้นทาง สวนสองแห่งที่ดีที่สุด ได้แก่ สวนยองจีซึ่งมีการแสดงแสงเลเซอร์ในช่วงฤดูร้อน และสวนดัลชอนซึ่งเป็นจุดตั้งแคมป์สำหรับครอบครัว เดินทางต่อไปก็จะพบกับเขตอนุรักษ์จูนัม ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของนกย้ายถิ่นที่สำคัญที่สุดของประเทศเกาหลี นักผจญภัยจะได้สนุกกับการปีนเขาที่อยู่ในบริเวณนั้น มียอดเขาบุลโมเป็นยอดที่สูงที่สุด
แถบชายฝั่งของชางวอนมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี หลายคนบอกว่าช่วงเวลาที่ควรมาเที่ยวที่สุดคือเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกซากุระกำลังบานสะพรั่ง มุ่งหน้าไปยังเขตจินเฮเพื่อเข้าร่วมเทศกาลชมดอกซากุระที่ว่ากันว่าดีที่สุดในประเทศ
การจะเดินทางไปชางวอนนั้น คุณจะต้องผ่านปูซานซึ่งมีสนามบินนานาชาติรวมทั้งสถานีรถโดยสารและสถานีรถไฟสำคัญๆ รถประจำทางจากโซลและเมืองสำคัญอื่นๆ ก็วิ่งมาถึงชางวอนเช่นกัน ทำให้เมืองสีเขียวที่สะอาดน่าอยู่แห่งนี้สะดวกต่อการมาเที่ยวชมและใช้เวลาพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง