ประติมากรรมเหล็กสีแดงสดใสเป็นสิ่งแรกที่คุณจะเห็นเมื่อมาถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะดัลลัส ผลงานที่ชื่อ Ave โดย Mark di Suvero นี้เป็นชิ้นงานต้อนรับอันน่าทึ่ง และสื่อถึงนิทรรศการอันน่าสนใจที่รออยู่ในพิพิธภัณฑ์ ซึ่งประกอบด้วยผลงานกว่า 20,000 ชิ้นในพื้นที่ถึง 4 ชั้น โปรดสวมรองเท้าที่ใส่สบายมา ถ้าตั้งใจว่าจะใช้เวลาทั้งวันมาเดินชมให้ทั่วถึง
คุณจะได้พบกับงานศิลป์ร่วมสมัยตั้งแต่ปี 1945 ที่ชั้นล่าง ชื่นชมงานจากศิลปินชื่อก้อง เช่น Jackson Pollock, Anish Kapoor และ Francis Bacon จากนั้น ขอเชิญย้อนเวลาสู่อดีตที่ชั้นสอง ซึ่งจัดแสดงวัตถุโบราณของโรมันและกรีก รวมถึงศิลปะและประติมากรรมยุโรป
ชั้นที่สามมีไว้จัดแสดงศิลปะแอฟริกาโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่มาจากศตวรรษที่ 16 ถึง 20 ถัดจากนิทรรศการดังกล่าวคือคอลเลกชัน Reves ซึ่งเป็นหนึ่งในคอลเล็กชันเด่นของพิพิธภัณฑ์ ห้องขนาด 1,533 ตารางเมตรนี้จำลองมาจากคฤหาสน์ฝรั่งเศสของ Emery Reves นักเขียนชาวฮังการี และ Wendy ภรรยาของเขา ซึ่งเป็นสถานที่ที่เคยเก็บรักษาคอลเล็กชันนี้ คอลเล็กชันดังกล่าวมีจุดเด่นคือผลงานของศิลปินเอกแห่งยุโรป เช่น ปอล เซซาน, แอดการ์ เดอกา, โกลด โมเนต์ และวินเซนต์ แวน โก๊ะ
ศิลปะอเมริกันรอคุณอยู่ที่ชั้น 4 ผลงานเหล่านี้รวบรวมมาจาก 3 ศตวรรษและมีต้นกำเนิดที่สหรัฐฯ แคนาดา และเม็กซิโก
ผู้ที่มาเป็นครอบครัวไม่ควรพลาดโซน C3 ซึ่งให้คุณเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะได้ในแบบอินเทอร์แอคทีฟ เด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบจะมีโอกาสได้ฝึกก่อสร้างด้วยตัวต่อ เล่นบ้านตุ๊กตาและหุ่นต่างๆ รวมถึงดูงานศิลปะในหนังสือ ส่วน Young Learners Gallery เป็นพื้นที่สำหรับเด็กอายุ 5 ถึง 8 ปี ส่วน Art Studio เปิดต้อนรับคนทุกวัยให้เข้ามาสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกของตัวเอง
ตัวอย่างโปรแกรมอื่นๆ ก็มีเช่น Gallery Talk ซึ่งเป็นการนำเสนอความยาว 45 นาทีที่จัดขึ้นทุกวันพุธ เวลา 12.15 น. โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โปรแกรมนี้จะเริ่มต้นที่เคาน์เตอร์บริการผู้เข้าชม และจะพาทัวร์หนึ่งแกลเลอรี โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนแกลเลอรีกันไปทุกสัปดาห์ ขอแนะนำให้วางแผนทัวร์ดัลลัสของคุณโดยมาที่นี่ในช่วงกิจกรรม Late Nights ซึ่งจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 3 ของทุกเดือน โดยพิพิธภัณฑ์จะเปิดถึงเที่ยงคืน
พิพิธภัณฑ์เปิดทำการทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์บางวัน มีคาเฟ่ให้บริการในสถานที่