ไมโนรี (Minori) เป็นหมู่บ้านริมฝั่งทะเลที่เต็มไปด้วยบ้านสีพาสเทล และรายล้อมไปด้วยสวนขั้นบันไดที่ปลูกต้นเลมอนและต้นส้ม เช่นเดียวกับหมู่บ้านอื่นๆ บนชายฝั่งอามัลฟี บริเวณแห่งนี้เป็นแหล่งพักพิงและสถานที่พักผ่อนมายาวนานหลายศตวรรษ ชาวโรมันที่ร่ำรวยต่างหลงใหลในความงามและสร้างบ้านพักตากอากาศไว้ที่นี่
มาเยี่ยมชมบ้านพักตากอากาศของชาวโรมันโบราณได้ในไมโนรี ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่พักอาศัยริมทะเลของขุนนางชาวโรมันในอดีต ชมการค้นพบทางโบราณคดีได้ในพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง วัตถุโบราณนั้นรวมถึงภาพปูนเปียก กระเบื้องโมเสก และแจกันดินเผา ในส่วนด้านล่างของบ้าน คุณสามารถเดินชมรอบๆ ห้องที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ชมพื้นปูกระเบื้องโมเสก และก้าวเข้าสู่ภายในห้องซาวน่าโบราณ
สิ่งปลูกสร้างที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของไมโนรี คือ มหาวิหารซันตาโตรฟีเมนา ที่มีส่วนหน้าของอาคารอันวิจิตรและการตกแต่งภายในอันหรูหรา โบสถ์แห่งนี้อุทิศให้กับนักบุญองค์อุปถัมภ์ของไมโนรี ซึ่งเป็นเด็กสาวที่ถูกสังหารโดยบิดาของตนเนื่องจากต้องการนับถือคริสต์ศาสนา กระดูกของเธอถูกค้นพบบนชายหาดและถูกนำเข้าฝั่ง จากนั้นชาวท้องถิ่นก็ได้สร้างโบสถ์ขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้แก่เธอ มหาวิหารในปัจจุบันนี้เป็นสิ่งปลูกสร้างสมัยศตวรรษที่ 18 ที่ก่อสร้างทับโบสถ์เดิม หยุดแวะชมอัฐิของนักบุญผู้นี้ที่ได้รับการเก็บรักษาไว้ในโกศในห้องเก็บศพ
ไมโนรีเป็นศูนย์กลางการผลิตพาสต้าในภูมิภาคมานานหลายศตวรรษ ซึ่งธรรมเนียมการทำพาสต้าแบบโฮมเมดก็ยังคงดำเนินอยู่จนถึงทุกวันนี้ ผลิตผลในท้องถิ่นอื่นๆ ที่มีจำหน่ายในร้านค้าและร้านอาหารยังรวมถึงขนมอบ ของหวานที่ทำจากเลมอน และเหล้าลิมอนเชลโล มาที่นี่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมและต้นเดือนกันยายนเพื่อเข้าร่วมงาน Expo del Gusto ซึ่งเป็นกิจกรรมกลางแจ้งที่มีการออกร้านไวน์ อาหาร ศิลปะ และงานประดิษฐ์จากบริเวณนี้ ในช่วงฤดูร้อน คนท้องถิ่นมักจะมารวมตัวกันที่หาดทรายของไมโนรี คุณสามารถเช่าเก้าอี้อาบแดดพร้อมร่ม และจุ่มเท้าในน้ำทะเล
ไมโนรีตั้งอยู่บนชายฝั่งสั้้นๆ ระหว่างเมืองอามัลฟีและวีเอตรี และสามารถเดินทางมาถึงได้ง่ายผ่านทางถนนเลียบชายฝั่ง นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้บริการรถโดยสาร SITA ที่วิ่งตามแนวชายฝั่งอามัลฟีได้ สถานีรถไฟที่อยู่ใกล้ที่สุดอยู่ในเมืองซาแลร์โน ซึ่งนักท่องเที่ยวก็สามารถขึ้นรถโดยสารจากที่นั่นได้