มหาวิหารมงเปอลิเยเป็นโบสถ์สไตล์กอธิกขนาดใหญ่สร้างในศตวรรษที่ 14 ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเก่า ด้วยหอคอย ป้อมปืนและเครื่องป้องกันต่างๆ ทำให้อาคารหลังนี้ดูคล้ายกับเป็นป้อมปราการในยุคกลาง ชื่อเต็มของมันคือ Cathédrale Saint-Pierre de Montpellier ซึ่งได้กลายมาเป็นมหาวิหารเมื่อปี 1536 โครงสร้างได้รับความเสียหายอย่างหนักจากสงครามศาสนา และถูกสร้างใหม่ในศตวรรษที่ 17 ที่นี่เป็นโบสถ์แห่งเดียวในพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ของมงเปอลิเยที่ผ่านยุคสงครามมา
ก่อนที่จะเข้าไปด้านใน ชมภายนอกอันวิจิตรและดูตัวการ์กอยล์ที่ฝังอยู่ในผนังอาคารมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 และ 19 ชมลานระเบียงที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมีเสามหึมา 2 ต้นค้ำตระหง่าน ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประทับตราอาร์มของ Pope Urban V ผู้อุทิศตนรับใช้โบสถ์ในปี 1367
สำรวจผลงานศิลปะมากมายที่แขวนไว้ที่ผนังด้านใน อีกสิ่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนั้นก็คือภาพวาดของ Sebastien Bourdon ในศตวรรษที่ 17 ที่ชื่อ The Fall of Simon Magus ชื่นชมลวดลายบนหน้าต่างกระจกสีสันสวยงามที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในพระคัมภีร์ ชื่นชมความโอ่โถงภายในกับเพดานสูงและซุ้มโค้งที่สลักจากก้อนหินขนาดใหญ่
มองดูออร์แกนที่โดดเด่นน่าสนใจในสมัยปี 1776 มีไปป์กว่า 140 ท่อที่สามารถมองเห็นแต่ที่จริงมีมากกว่า 5,000 ท่อที่ซ่อนไว้ในจุดอับสายตา ชมรูปั้นเทพยดาในท่าทางบรรเลงเครื่องดนตรีตามจุดต่างๆ ที่ตั้งออร์แกนทั้ง 5 จุด ทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงกันยายน มหาวิหารจะมีการจัดแสดงออร์แกนการกุศลโดยมีศิลปินระดับชาติและนานาชาติมาร่วมแสดง รายละเอียดสามารถติดตามได้จากเว็บไซต์
เยี่ยมชมห้องสวดมนต์ภายในมหาวิหารเพื่อดูภาพวาด รูปปั้น และแท่นพิธีที่ประดับตกแต่งสวยงาม
มหาวิหารมงเปอลิเยเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น และปิดให้เข้าชมในช่วงพักรับประทานอาหารกลางวันราว 2-3 ชั่วโมง ไม่เสียค่าบริการในการเข้าชมแต่สามารถบริจาคได้ ที่นี่จัดพิธีกรรมทางศาสนาเกือบทุกวัน
มหาวิหารตั้งอยู่ใจกลางย่านประวัติศาสตร์ของตัวเมือง สามารถเดินทางมาโดยใช้บริการขนส่งสาธารณะได้โดยง่าย แหล่งท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียงที่สามารถเยี่ยมชมได้ประกอบด้วย Peyrou Park สวนพฤกษศาสตร์ Jardin des Plantes de Montpellier และ Place de la Comédie