เดินท่องไปในป่าฝน ชมวัดสูงตระหง่าน พีระมิด และอาคารบ้านเรือนในเมืองยุคก่อนโคลอมเบียแห่ง Tikal เรียนรู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการของอารยธรรมมายาโบราณ ชมลิงห้อยโหนไปมาระหว่างต้นไม้และนกแปลกๆ หาดูยาก Tikal เป็นแหล่งขุบพบทางโบราณคดีที่เกี่ยวกับอารยธรรมมายาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอเมริกา ตั้งอยู่ท่ามกลางอุทยานแห่งชาติ Tikal ที่งดงาม ย้อนกลับไปในสมัย 600 ปีก่อนคริสตกาล และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 1979
ชมซากปรักหักพังของลาน พระราชวัง พลาซ่า และวัดที่ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี บางอย่างก็ยังตั้งตระหง่านอย่างสง่างามและสูงเหนือยอดต้นไม้ ขณะที่บางอย่างก็ซ่อนอยู่หลังพุ่มไม้ที่เขียวชอุ่ม ลองจินตนาการถึงตอนที่ Tikal เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การทหาร และกิจกรรมทางการเมือง ตื่นตากับความสามารถทางศิลปะของอารยธรรมโบราณ
จุดเด่นของที่นี่คือ Gran Plaza ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัด Grand Jaguar ที่สูง 47 เมตร ปีนขึ้นไปด้านบนสุดของวัดเพื่อชมทัศนียภาพอันกว้างไกลของซากปรักหักพังและป่าไม้ เดินชมรอบๆ ลาน Acropolis Central อันวกวนซึ่งเคยเป็นที่พักอาศัยของเหล่าขุนนาง
ชมลานของวัดทั้งเจ็ดขนาบด้วยโครงสร้างรูปทรงพีระมิด พลาดไม่ได้กับ El Mundo Perdido ซึ่งเป็นศูนย์รวมสถาปัตยกรรมรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่ยุคก่อนคลาสสิกไปจนถึงปลายยุคคลาสสิก
สังเกตดูสัตว์ป่าหลากหลายที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติขณะเดินชมสถานที่ ชมลิงฮาวเลอร์ ลิงสไปเดอร์ และนกกว่า 300 สายพันธุ์ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมสัตว์ป่าคือตอนเช้าตรู่
อย่าลืมแวะชมพิพิธภัณฑ์ Litico ซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ชมการจัดแสดงงานเซรามิค และงานประติมากรรมแกะสลักหิน ชมแบบจำลองของเมืองว่าเป็นอย่างไรในปี 800
Tikal เปิดทุกวันและมีค่าเข้าชม มีแผนผังของสถานที่ขายที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และสามารถจ้างไกด์ที่มีความรู้ให้ช่วยอธิบายข้อมูลได้ ควรมีเวลาเต็มวันในการเที่ยวชมสถานที่ทั้งหมด
ใช้เวลาขับรถประมาณ 1 ชั่วโมงจาก Flores และ 40 นาทีจาก El Remate หรือจะขึ้นรถประจำทางสาธารณะมายัง Tikal ก็สะดวก มีบริษัทท่องเที่ยวใน Flores และ El Remate จัดทริปแบบไปเช้าเย็นกลับ รวมการเดินทางและค่าเข้าชมเรียบร้อยแล้ว