รูป "ชายฝั่ง, ทหาร, พิพิธภัณฑ์, ฤดูใบไม้ร่วง, ศิลปะ, เครื่องบิน + เงียบสงบ" ของ อุรุกวัย

• อเมริกาใต้
• โลก

เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในอุรุกวัยแห่งนี้ผสานเรื่องราวในประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม ซึ่งแสดงออกที่โรงละครและการแสดงดนตรีสด ชายหาดและทางเดินเลาะชายหาด

ชายหาด กีฬาทางน้ำ ทัวร์ชมเกาะ แสงสียามค่ำคืนคืน และการใกล้ชิดกับเหล่าคนดัง ทำให้ที่แห่งนี้เป็นที่พักตากอากาศชายฝั่งทะเลที่พิเศษที่สุดในอเมริกาใต้

เพชรในตมของอเมริกาใต้แห่งนี้มีเมืองหลวงทางประวัติศาสตร์และเมืองอาณานิคม ภูมิประเทศที่สวยงาม รีสอร์ทชายหาดสุดหรู และจุดเล่นกระดานโต้คลื่นสไตล์โบฮีเมียน

ชายหาด กีฬาทางน้ำ ทัวร์ชมเกาะ แสงสียามค่ำคืนคืน และการใกล้ชิดกับเหล่าคนดัง ทำให้ที่แห่งนี้เป็นที่พักตากอากาศชายฝั่งทะเลที่พิเศษที่สุดในอเมริกาใต้

เพชรในตมของอเมริกาใต้แห่งนี้มีเมืองหลวงทางประวัติศาสตร์และเมืองอาณานิคม ภูมิประเทศที่สวยงาม รีสอร์ทชายหาดสุดหรู และจุดเล่นกระดานโต้คลื่นสไตล์โบฮีเมียน

ถนนปูพื้นหิน บ้านหลากสี พิพิธภัณฑ์ และชายหาดทำให้เมืองในแถบชายฝั่งตะวันตกของอุรุกวัยแห่งนี้เป็นที่นิยมมากที่สุดแห่งหนึ่ง

เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในอุรุกวัยแห่งนี้ผสานเรื่องราวในประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม ซึ่งแสดงออกที่โรงละครและการแสดงดนตรีสด ชายหาดและทางเดินเลาะชายหาด

ถนนปูพื้นหิน บ้านหลากสี พิพิธภัณฑ์ และชายหาดทำให้เมืองในแถบชายฝั่งตะวันตกของอุรุกวัยแห่งนี้เป็นที่นิยมมากที่สุดแห่งหนึ่ง

ชายหาด กีฬาทางน้ำ ทัวร์ชมเกาะ แสงสียามค่ำคืนคืน และการใกล้ชิดกับเหล่าคนดัง ทำให้ที่แห่งนี้เป็นที่พักตากอากาศชายฝั่งทะเลที่พิเศษที่สุดในอเมริกาใต้

จากหมู่บ้านชาวประมงที่เคยเงียบสงบ ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในอุรุกวัยสำหรับนักเดินทางเพื่อมาโต้คลื่น อาบแดด และเดินสำรวจธรรมชาติ 

วิวรอบทิศจากยอดประภาคารเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 19 นี้มองเห็นได้ทั้งเมืองและแม่น้ำเดลาปลาตา

ชายหาด กีฬาทางน้ำ ทัวร์ชมเกาะ แสงสียามค่ำคืนคืน และการใกล้ชิดกับเหล่าคนดัง ทำให้ที่แห่งนี้เป็นที่พักตากอากาศชายฝั่งทะเลที่พิเศษที่สุดในอเมริกาใต้

พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ในอาคารยุคศตวรรษที่ 19 เต็มไปด้วยโบราณวัตถุของชนพื้นเมืองอุรุกวัยที่เก่าแก่นับพันปี

พิพิธภัณฑ์เก่าแก่ที่สุดของเมือง จัดแสดงโครงกระดูกสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์และวัตถุโบราณต้นยุคอาณานิคม 

วิวรอบทิศจากยอดประภาคารเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 19 นี้มองเห็นได้ทั้งเมืองและแม่น้ำเดลาปลาตา

สำรวจพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เพื่อเรียนรู้วิธีที่ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวสเปนอาศัยอยู่ในเมืองโคโลเนีย เดล ซาคราเมนโต เมื่อศตวรรษที่ 17 และ 18

จากหมู่บ้านชาวประมงที่เคยเงียบสงบ ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในอุรุกวัยสำหรับนักเดินทางเพื่อมาโต้คลื่น อาบแดด และเดินสำรวจธรรมชาติ 

วิวรอบทิศจากยอดประภาคารเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 19 นี้มองเห็นได้ทั้งเมืองและแม่น้ำเดลาปลาตา