Gyeongju…พิพิธภัณฑ์ไร้กำแพง
โซล ปูซาน หรือเกาะเชจู เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของเกาหลีใต้ แต่ยังมีอีกหนึ่งเมืองที่น่าสนใจนั่นคือ คยองจู (Gyeongju) หรือที่คนไทยเรียกตามสำเนียงไทยๆ ว่า “เคียงจู” ผมจึงอยากแนะนำเมืองนี้ที่ได้รับการขนานนามว่า The Museum without Walls ให้รู้จักกันมากขึ้น นักท่องเที่ยวผู้โปรดปรานด้านโบราณคดีก็ต่างพากันขนานนามเมืองนี้ว่า The Museum without Walls ใครที่ชอบเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อาจใช้เวลาสัก 3 วัน 2 คืน เพื่อสำรวจ “พิพิธภัณฑ์ไร้กำแพง” แห่งนี้ดังเช่นที่ผมเคยไปมาแล้ว
Gyeongju…พิพิธภัณฑ์ไร้กำแพง
ทำไมถึงเป็น “พิพิธภัณฑ์ไร้กำแพง”? คยองจู เป็นเมืองโบราณแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ เคยมีฐานะเป็นถึงเมืองหลวงมาตั้งแต่ยุคชิลลาหรือเมื่อราว 57 ปีก่อนคริสตกาล รวมเวลาเกือบ 1,000 ปี จึงมีโบราณสถานทั้งวัด สุสาน และพระราชวังอยู่มากมาย โบราณสถานเหล่านี้ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี องค์การยูเนสโกจึงขึ้นทะเบียนพื้นที่ประวัติศาสตร์ย่านใจกลางเมืองเป็นมรดกโลก
Day 1
โซล-คยองจู | ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง |
นั่งรถบัสที่? | Gangnam Express Bus Terminal |
รอบรถ | ออกทุกๆ 30 – 40 นาที ระหว่างเวลา 06.05 – 23.55 น. |
ผมออกจากโซลราวๆเที่ยง ไปถึงคยองจูบ่ายแก่ๆ หลังจากเข้าที่พักก็ใช้เวลาช่วงเย็นสำรวจตลาดจุงกัง (Jungang Market) ซึ่งเป็นตลาดท้องถิ่น มีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย ทั้งเสื้อผ้า ของสด ของแห้ง ผัก ผลไม้ และอาหารหน้าตาแปลกๆ ริมถนนด้านนอกตลาดก็มีพ่อค้าแม่ค้าจับจองที่บนบาทวิถีจำหน่ายสินค้า ดูแล้วมีชีวิตชีวาและได้เห็นวิถีชีวิตของชาวเกาหลีจริงๆ ฝากท้องไว้ตามร้านอาหารในย่านนี้ได้เลย พอค่ำๆหน่อยก็ไปเดินเล่นย่านช็อปปิ้งซึ่งอยู่ในซอยตรงข้ามสุสานทูมูลี (Tumuli) บรรยากาศเหมือนเมียงดงที่โซลเปี๊ยบ เพราะมีร้านค้าแฟชั่นทันสมัยมากมาย แสงไฟสว่างไสวตลอดค่ำ ร้านอาหารและคาเฟ่น่านั่งเพียบ ผมเองซึ่งปกติไม่ใช่ขาช็อปยังอดใจไม่ไหว ทั้งซื้อของทั้งกินอาหารจนหมดไปหลายวอนเลยทีเดียว
Day 2
วัดบุลกุกซา (Bulguksa Temple)


รูปภาพ: Google Map
ความสำคัญของวัดบุลกุกซา | เนื่องจากวัดแห่งนี้เป็นหนึ่งในมรดกโลกเช่นกัน |
การเดินทาง | นั่งรถประจำทางสาย 10 หรือ 11 |
เวลาในการเดินทาง | วัดตั้งห่างจากตัวเมืองราวครึ่งชั่วโมงกว่าๆ |
วันนี้ตื่นเช้าหน่อย ทันทีที่เดินทางถึงตัววัดซึ่งตั้งอยู่บนเนินเตี้ยๆ ผมก็เห็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสยายปีกไปทั้งสองข้าง มีบันไดหินขนาดใหญ่อยู่ตรงกึ่งกลาง สวยงามอลังการและสมดุลมากๆ ครั้นเดินเข้าไปข้างในก็จะพบสิ่งปลูกสร้างสไตล์เกาหลีแท้ๆมากมายตั้งอยู่บนพื้นที่อันไพศาล วัดบุลกุกซาถือเป็นหนึ่งในวัดที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของเกาหลี สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.528
ถ้ำซอกกูรัม (Seokguram)


รูปภาพ: sukgulam.org
นั่งรถต่อจากวัดบุลกุกซาไปอีกอึดใจจะพบถ้ำซอกกูรัม (Seokguram) อีกหนึ่งมรดกโลก จากลานจอดรถจะเห็นอาคารสวยๆตั้งเรียงรายไปตามเนินเขา ล้อมรอบด้วยเทือกเขาเป็นทิวแถว สวยงามจับตามาก ผมเดินขึ้นเขาไปเพื่อชมพระพุทธรูปแกะสลักจากหินแกรนิตอายุนับพันปีซึ่ง ประดิษฐานอยู่ในถ้ำ พระพุทธรูปงดงามมากจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นฝีมือช่างสมัยโบราณที่ไม่มีอุปกรณ์ ก่อสร้างที่ทันสมัย
สวนป่าเยริม (Yerim) และหอดูดาวชอมซองแด (Cheomseongdae)


รูปภาพ: Google Map
กลับมาถึงตัวเมืองตอนเย็น น่าไปเดินเล่นแถวๆ สวนป่าเยริม (Yerim) ตรงนั้นมีหอดูดาวชอมซองแด (Cheomseongdae) ซึ่งสร้างขึ้นราว ค.ศ.632 ในสมัยราชินีซอนต๊อกที่เราคุ้นหูจากซีรีส์เกาหลี บรรยากาศยามเย็นแถวนี้ชิลมาก มีรถม้าให้นั่งเล่นเพลินๆ ด้วย
Day 3
สุสานทูมูลี
วันนี้เก็บตกที่เที่ยวในเมือง ขอแนะนำให้เช่าจักรยานปั่น แล้วมุ่งตรงไปที่สุสานทูมูลี ซึ่งเป็นที่ฝังพระศพของบุคคลในราชวงศ์สมัยอาณาจักรชิลลา สุสานแห่งนี้มีลักษณะแปลกตาเพราะเป็นเนินดินสูงต่ำปกคลุมด้วยหญ้าสีเขียวสด ยิ่งเนินดินไหนใหญ่โตเท่าไร ยิ่งหมายความว่าเป็นที่ฝังพระศพของราชวงศ์ชั้นสูง ใครอยากรู้ว่าภายในหลุมเป็นอย่างไร ก็มีหลุมหนึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม บรรยากาศโดยรวมของสุสานนี้ไม่น่ากลัวเลย แถมยังร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ จริงๆ แล้วมีสุสานลักษณะนี้กระจัดกระจายอยู่ทั่วเมืองเคียงข้างบ้านเรือน แถวๆสวนป่าเยริมก็มีมากมาย ทำให้ทัศนียภาพของคยองจูดูแปลกตากว่าที่อื่น
ปั่นจักรยานไปทางสวนป่าเยริมแล้วทะลุเข้าไปเลย ระหว่างทางจะผ่านซากโบราณสถานซึ่งเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ก่อผนังด้วยหินก้อนใหญ่ๆ ในสมัยโบราณใช้เป็นเสมือนตู้เย็นเพราะหินที่กรุด้านในทำหน้าที่เก็บความเย็น ปลายทางของวันนี้อยู่สระอันอั๊บจิ (Anapji) ซึ่งเคยเป็นพระราชวังของกษัตริย์ในยุคชิลลามาก่อน ภายในมีศาลาสวยๆตั้งอยู่ริมสระน้ำกว้างใหญ่ ลึกเข้าไปเป็นสวนป่า รอบๆยังเห็นซากเสาและรากฐานของอาคารสมัยโบราณหลงเหลืออยู่ด้วย
น่าลองไปพิสูจน์กันว่า คยองจูควรค่ากับฉายา The Museum without Walls อย่างที่ผมอวดหรือเปล่า
อ่านรายละเอียด : คยองจูเกาหลีใต้
ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว
พักที่ไหนดี?
การเดินทาง
วีซ่า
อ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม
กัมพูชาเป็นประเทศที่มีพนมเปญ (Phnom Penh) เป็นเมืองหลวงและเป็นประเทศที่น่าเที่ยวตลอดกาล แต่สำหรับใครที่หลงใหลการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ชอบดูสถาปัตยกรรมโบราณ ปราสาทเก่าแก่สวยๆ รวมไปถึงชอบศึกษาอารยธรรมโบราณและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์เราขอแนะนำให้เพื่อนๆ ไปเที่ยวที่เมืองเสียมเรียบ (Siem Reap) เพราะเมืองนี้มีโบราณสถานที่สำคัญต่อโลกหลายแห่ง อีกทั้งกัมพูชายังเป็นประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่สามารถเดินทางไปง่าย และไม่ต้องใช้วีซ่าเดินทางด้วย ดังนั้นเอ็กซ์พีเดียขอชวนเพื่อนๆ...
ไต้หวันที่เที่ยวสวย ของถูก อาหารอร่อย เอ็กซ์พีเดียเชื่อว่าเพื่อนๆ ต้องเคยได้ยินคนพูดถึงไต้หวันด้วย 3 ประโยคนี้อย่างแน่นอน ยิ่งตอนนี้ไต้หวันให้สิทธิ์ฟรีวีซ่าสำหรับคนไทยด้วย เราเลยอยากชวนเพื่อนๆ ไปเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองแบบไม่ต้องง้อทัวร์กัน จะชวนเพื่อน ชวนแฟน ชวนครอบครัวไปเที่ยวก็ได้ เพราะวันนี้เอ็กซ์พีเดียมีแพลนเที่ยวไต้หวัน 5...
มีเวลาสั้นๆ แค่ 3 วันก็สามารถไปเที่ยวต่างประเทศแบบเต็มอิ่มได้นะ โดยเฉพาะไต้หวันที่ค่าครองชีพพอๆ กับประเทศไทย อีกทั้งเพื่อนๆ สามารถเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองได้เพราะการเดินทางไม่ซับซ้อน ยิ่งเมืองหลวงอย่างไทเปก็มีรถไฟใต้ดินไปส่งถึงแหล่งกิน เที่ยว ช้อป และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทุกแห่ง ทำให้เพื่อนๆ สามารถเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองได้อย่างสบายๆ เลย...
ไต้หวันเป็นประเทศเที่ยวง่ายเพราะมีรถไฟฟ้าความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) ที่วิ่งรอบเกาะไต้หวัน ตามเมืองใหญ่ๆ ทั้งเกาะ ในเมืองก็มีรถไฟฟ้า MRT ให้บริการ อีกทั้งค่าเงินก็ถูกกว่าประเทศไทย ดังนั้นเอ็กซ์พีเดียเลยอยากชวนเพื่อนๆ ไปสัมผัสประสบการณ์การเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองดูสักครั้งตามสถานที่ท่องเที่ยวไต้หวันที่เอ็กซ์พีเดียคัดมาให้แล้วว่าเด็ด ไม่ว่าเพื่อนๆ จะเสิร์ชกูเกิ้ลคำว่าที่เที่ยวไต้หวันหรือไต้หวันที่เที่ยว รับรองว่ายังไงก็มี 10...
นารา (Nara) เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศญี่ปุ่น ในอดีตนาราเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย โดยนาราตั้งอยู่ใกล้กับเมืองเกียวโต (Kyoto) และโอซาก้า (Osaka) ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเดินทางไปเที่ยวนาราได้ด้วยการนั่งรถไฟไปโดยใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ความโดดเด่นของเมืองนาราก็คือความเก่าแก่ของวัดที่อยู่เต็มเมือง ธรรมชาติอันบริสุทธิ์ และฝูงกวางที่เราสามารถให้อาหารได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งในครั้งนี้เอ็กซ์พีเดียเองก็ไม่พลาดที่จะพาเพื่อนๆ ไปดูว่านารามีอะไรให้เราได้เที่ยวกัน...