มะละกาน่าเที่ยว แหล่งมรดกโลกในเอเชียที่ไม่เหมือนใคร
มะละกาเป็นเมืองเล็กน่าเที่ยวในมาเลเซียที่มีเสน่ห์และความน่าสนใจมากมาย ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามแปลกตา ผสมผสานได้ดีกับศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิม ทำให้เมืองมะละกามีความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์จนได้รับการยกย่องให้เป็นอีกหนึ่งเมืองมรดกโลกในเอเชีย จากประเทศไทยยังสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ง่ายและมีวิธีการเดินทางหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการนั่งเครื่องบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปลงยังท่าอากาศยานมะละกา (Malacca International Airport) ของเมืองมะละกา หรือว่าจะนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงยังท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur International Airport) แล้วขึ้นรถบัสจากสถานีขนส่งเบอร์เซปาดู เซอลาตัน (Terminal Bersepadu Selatan) ไปลงที่สถานีขนส่งมะละกา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 11 – 15 RM เพียงแค่นี้เราก็สามารถออกเดินทางค้นหาเสน่ห์ของเมืองมะละกานี้ได้อย่างสะดวกสบายแล้ว
มะละกาน่าเที่ยว แหล่งมรดกโลกในเอเชีย
วันนี้ Expedia ขอนำทุกท่านออกท่องเที่ยวไปยังเมืองมะละกา เพื่อสำรวจและค้นหาสาเหตุว่าทำไมเมืองเล็กๆ ที่เราสามารถเดินเท้าท่องเที่ยวได้ทั่วแห่งนี้ถึงได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกในเอเชียกัน จะน่าสนใจขนาดไหน ตามมาดูกันเลย
ริกชอว์ (Rickshaw) นั่งสามล้อสำรวจเมืองมรดกโลก


ภาพจาก : iStockPhoto
ประเดิมเสน่ห์อย่างแรกของเมืองมะละกากันด้วยริกชอว์ สามล้อสีสันสดใสที่วิ่งให้บริการอยู่ทั่วเมืองแห่งนี้ การให้บริการริกชอว์นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในอาชีพหลักของชาวเมืองมะละกา แต่ละคนจะตกแต่งรถสามล้อของตนให้น่ารักสีสันสดใสไปจนถึงประดับไฟเพื่อเอาไว้ดึงดูดสายตานักท่องเที่ยว รถสามล้อริกชอว์มีจุดจอดหลักๆ อยู่ที่จตุรัสดัตช์แสควร์ (Dutch Square) ใจกลางเมืองมะละกา เราสามารถเรียกใช้บริการเพื่อนั่งเที่ยวชิลๆ ดื่มด่ำบรรยากาศทั่วเมืองมะละกาได้ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน
ค่าบริการ
เวลาเปิดบริการ
การเดินทาง
ดัตช์ สแควร์ (Dutch Square) ความสวยงามที่โลกต้องจารึก


ภาพจาก : iStockPhoto
จัตุรัสดัตช์แสควร์จัดว่าเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญใจกลางเมืองมะละกาที่พลาดไม่ได้ ด้วยความสวยงามของอาคารบ้านเรือนสีแดงอิฐ ซึ่งเข้ากันได้ดีกับสถาปัตยกรรมแบบชาวดัตช์ที่เคยเข้ามาเผยแผ่ศาสนาคริสต์ นิกายโปรเตสแตนท์ ทำให้จัตุรัสใจกลางเมืองแห่งนี้กลายเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของเมืองมะละกาที่ควรค่าแก่การแวะมาเที่ยวที่สุดในประเทศมาเลเซีย นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ เช่น โบสถ์คริสต์ (นิกายโปรเตสแตนท์) หอนาฬิกา และกังหันลมฮอลันดาที่เราสามารถเดินเท้าไปเยี่ยมชมความสวยงามได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
ค่าบริการ
เวลาเปิดบริการ
การเดินทาง
ยองเกอร์ สตรีท (Jonker Street) ถนนสายวัฒนธรรม ที่สุดแห่งเมืองมะละกา


ภาพจาก : iStockPhoto
ถนนยองเกอร์สตรีทเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวมาเลเซีย ถึงแม้ว่าถนนยองเกอร์สตรีทจะเป็นถนนเส้นเล็กๆ แต่กลับอัดแน่นไปด้วยความสวยงามของอาคารบ้านเรือนสไตล์ชิโนโปรตุกีสสีสันสวยงามที่เราสามารถเดินถ่ายรูป ดื่มด่ำบรรยากาศชิลๆ ได้อย่างไม่รู้เบื่อ ที่นี่ยังถูกเนรมิตเป็นถนนคนเดินในช่วงเย็นของทุกวันศุกร์ – อาทิตย์ ให้เราได้เดินชม ชิม ช้อป อาหารและสินค้าพื้นเมืองได้อย่างเพลิดเพลินด้วย
ค่าบริการ
เวลาเปิดบริการ
การเดินทาง
โบสถ์เซนต์พอล (St. Paul’s Church) จุดเริ่มต้นของศาสนาคริสต์ในเมืองมะละกา


ภาพจาก : iStockPhoto
อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเที่ยวที่มะละกา เมืองมรดกในเอเชียแห่งนี้ก็คือโบสถ์เซนต์พอล โบสถ์เซนต์พอลเป็นโบราณสถานที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเกือบ 500 ปี ตั้งแต่สมัยนักบุญฟรานซิส เซเวียร์ (Saint Francis Xavier) เดินทางเข้ามาเผยแผ่ศาสนาคริสต์ (นิกายโรมัน – คาทอลิค) ต่อมาเมืองมะละกาถูกยึดอำนาจโดยนักบุญชาวดัชต์ (นิกายโปรเตสแตนท์) ทำให้โบสถ์เซนต์พอลแห่งนี้ไม่ได้ใช้ประกอบศาสนพิธีและถูกเปลี่ยนเป็นสถานที่ฝังศพบุคคลสำคัญแทน ถึงแม้ว่าโบสถ์เซนต์พอลจะมีจุดจบที่น่าเศร้า แต่ก็ยังคงรักษาไว้ซึ่งความเข้มขลังและสวยงามได้อย่างดีเยี่ยม เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของเมืองมะละกาที่ควรค่าแก่การมาสัมผัส
ค่าบริการ
เวลาเปิดบริการ
การเดินทาง
แม่น้ำมะละกา (Melaka River) หัวใจแห่งเมืองมรดกโลก


ภาพจาก : iStockPhoto
แม่น้ำมะละกา อีกหนึ่งมนตร์เสน่ห์ที่จะทำให้เราตกหลุมรักเมืองเล็กๆ แห่งนี้ แม่น้ำมะละกาเป็นแม่น้ำสายสำคัญและเป็นต้นกำเนิดที่สำคัญที่สุดของประเทศมาเลเซีย ตั้งอยู่ในกลางเมืองมะละกาติดกับถนนยองเกอร์สตรีท เดิมทีมะละกาเป็นเมืองท่าที่สำคัญในการนำเข้า – ส่งออกสินค้าที่เรารู้จักกันในนามของ “ช่องแคบมะละกา” แม้ว่าปัจจุบันจะไม่ได้เป็นเมืองท่าที่สำคัญแล้ว แต่แม่น้ำสายนี้ก็ยังคงความสวยงามและวิถีชีวิตของชาวเมืองมะละกาไว้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีบริการนั่งเรือชมอาคารบ้านเรือนและวิถีชีวิตของชาวมะละกาไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ค่าบริการ
เวลาเปิดบริการ
การเดินทาง
พิพิธภัณฑ์สมุทรศาสตร์ (Melaka Maritime Museum) ต้นกำเนิดที่ยิ่งใหญ่ของเมืองมะละกา


ภาพจาก : iStockPhoto
ถัดจากจตุรัสดัตช์สแควร์และโบสถ์เซนต์พอลไปไม่ไกล เราจะพบกับอาคารรูปเรือสำเภาที่ตั้งตระหง่านใหญ่โตรอต้อนรับนักท่องเที่ยว อาคารแห่งนี้คือพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงวิถีชีวิตและประวัติความเป็นมาของเมืองมะละกา ภายในนำเสนอวิถีชีวิตของลูกเรือที่ต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาขนส่งสินค้าที่ช่องแคบมะละกา ให้เราได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และความยิ่งใหญ่ของเมืองมรดกโลกในเอเชียแห่งนี้ได้อย่างลึกซึ้ง
ค่าบริการ
เวลาเปิดบริการ
การเดินทาง
มัสยิดเซลัต (Masjid Selat Melaka) สันติสุขกลางสายน้ำ


ภาพจาก : iStockPhoto
อีกหนึ่งมนตร์เสน่ห์ของเมืองมะละกาที่ทำให้นักเดินทางทุกคนอยากมาเที่ยวมาเลเซียก็คือมัสยิดกลางน้ำ (Masjid Selat Melaka) แห่งนี้ มัสยิดเซลัตตั้งอยู่บนเกาะปุเลย์ (Pulay) ซึ่งเป็นเกาะที่ถูกสร้างขึ้นโดยรัฐบาลเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวมาเลเซียและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ มัสยิดเซลัตถูกสร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาวสวยงามตัดรับกันได้ดีกับท้องทะเลสีฟ้า นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ แต่มีข้อแม้ว่านักท่องเที่ยวผู้หญิงจะต้องสวมชุดและคลุมผมด้วยผ้าฮิญาบ ไฮไลท์สำคัญของที่นี่คือการถ่ายภาพมัสยิดในช่วงเวลาพลบค่ำ ที่มัสยิดจะเปิดไฟสว่างไสวตัดกับขอบฟ้าสีแดงฉาน นับเป็นภาพที่นักท่องต่างเที่ยวเฝ้ารอ รับรองว่าสวย คุ้มค่า คุ้มราคากับการนั่งแท็กซี่ออกมานอกเมือง
ค่าบริการ
เวลาเปิดบริการ
การเดินทาง
และนี่ก็คือมนตร์เสน่ห์และความสวยงามของเมืองมะละกาที่เราเอามาฝากกัน ทั้งสวยและน่าสนใจ เหมาะสมที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลกในเอเชีย ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ยังมีที่พักมากมาย หลากหลายสไตล์ให้เพื่อนๆ ได้เลือกพัก เพียงได้มาเยือนที่มะละกาสักครั้ง รับรองว่าจะต้องชื่นชอบและอยากกลับมาท่องเที่ยวที่นี่อีกแน่นอน
พักที่ไหนดี?
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว
[package_deals title=’ดีลแนะนำ กรุงเทพฯ-มะละกา’ deals=’packages,hotels,flights’]
อ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม
กัมพูชาเป็นประเทศที่มีพนมเปญ (Phnom Penh) เป็นเมืองหลวงและเป็นประเทศที่น่าเที่ยวตลอดกาล แต่สำหรับใครที่หลงใหลการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ชอบดูสถาปัตยกรรมโบราณ ปราสาทเก่าแก่สวยๆ รวมไปถึงชอบศึกษาอารยธรรมโบราณและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์เราขอแนะนำให้เพื่อนๆ ไปเที่ยวที่เมืองเสียมเรียบ (Siem Reap) เพราะเมืองนี้มีโบราณสถานที่สำคัญต่อโลกหลายแห่ง อีกทั้งกัมพูชายังเป็นประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่สามารถเดินทางไปง่าย และไม่ต้องใช้วีซ่าเดินทางด้วย ดังนั้นเอ็กซ์พีเดียขอชวนเพื่อนๆ...
ไต้หวันที่เที่ยวสวย ของถูก อาหารอร่อย เอ็กซ์พีเดียเชื่อว่าเพื่อนๆ ต้องเคยได้ยินคนพูดถึงไต้หวันด้วย 3 ประโยคนี้อย่างแน่นอน ยิ่งตอนนี้ไต้หวันให้สิทธิ์ฟรีวีซ่าสำหรับคนไทยด้วย เราเลยอยากชวนเพื่อนๆ ไปเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองแบบไม่ต้องง้อทัวร์กัน จะชวนเพื่อน ชวนแฟน ชวนครอบครัวไปเที่ยวก็ได้ เพราะวันนี้เอ็กซ์พีเดียมีแพลนเที่ยวไต้หวัน 5...
มีเวลาสั้นๆ แค่ 3 วันก็สามารถไปเที่ยวต่างประเทศแบบเต็มอิ่มได้นะ โดยเฉพาะไต้หวันที่ค่าครองชีพพอๆ กับประเทศไทย อีกทั้งเพื่อนๆ สามารถเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองได้เพราะการเดินทางไม่ซับซ้อน ยิ่งเมืองหลวงอย่างไทเปก็มีรถไฟใต้ดินไปส่งถึงแหล่งกิน เที่ยว ช้อป และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทุกแห่ง ทำให้เพื่อนๆ สามารถเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองได้อย่างสบายๆ เลย...
ไต้หวันเป็นประเทศเที่ยวง่ายเพราะมีรถไฟฟ้าความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) ที่วิ่งรอบเกาะไต้หวัน ตามเมืองใหญ่ๆ ทั้งเกาะ ในเมืองก็มีรถไฟฟ้า MRT ให้บริการ อีกทั้งค่าเงินก็ถูกกว่าประเทศไทย ดังนั้นเอ็กซ์พีเดียเลยอยากชวนเพื่อนๆ ไปสัมผัสประสบการณ์การเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองดูสักครั้งตามสถานที่ท่องเที่ยวไต้หวันที่เอ็กซ์พีเดียคัดมาให้แล้วว่าเด็ด ไม่ว่าเพื่อนๆ จะเสิร์ชกูเกิ้ลคำว่าที่เที่ยวไต้หวันหรือไต้หวันที่เที่ยว รับรองว่ายังไงก็มี 10...
นารา (Nara) เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศญี่ปุ่น ในอดีตนาราเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย โดยนาราตั้งอยู่ใกล้กับเมืองเกียวโต (Kyoto) และโอซาก้า (Osaka) ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเดินทางไปเที่ยวนาราได้ด้วยการนั่งรถไฟไปโดยใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ความโดดเด่นของเมืองนาราก็คือความเก่าแก่ของวัดที่อยู่เต็มเมือง ธรรมชาติอันบริสุทธิ์ และฝูงกวางที่เราสามารถให้อาหารได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งในครั้งนี้เอ็กซ์พีเดียเองก็ไม่พลาดที่จะพาเพื่อนๆ ไปดูว่านารามีอะไรให้เราได้เที่ยวกัน...