5 เมืองน่ารักในอิตาลี ดีต่อใจ ไปแล้วต้องหลงรัก
มีคำกล่าวว่า “อิตาลี ฤดูใบไม้ผลิ และรักครั้งแรก สามสิ่งนี้น่าจะเพียงพอที่จะทำให้คนที่เศร้าหมองกลับมามีความสุขได้อีกครั้ง” ฟังดูเหมือนอิตาลีจะมีความพิเศษบางประการที่ทำให้ใครๆ ต่างพากันตกหลุมรัก เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศอิตาลีเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลก กลิ่นอายความโรแมนติกท่ามกลางสถาปัตยกรรมคลาสสิกสไตล์ยุโรป ที่ถูกแวดล้อมด้วยทะเลและเทือกเขาที่มีความสมบูรณ์และสวยงามตามธรรมชาติ เหมาะสำหรับเป็นพิกัดท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจ ปล่อยให้มวลบรรยากาศความเป็นอิตาลีเรียกความสดใสคืนกลับมาให้คุณ นอกจากกรุงโรมและเมืองเวนิสที่เป็นเสมือนแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแล้ว รู้หรือไม่ว่าอิตาลียังมีเมืองเล็กๆ แสนน่ารักและดีต่อใจอีกหลายแห่งที่รอให้คุณไปพิสูจน์ความสวยงาม รับรองว่าต้องตกหลุมรักแน่นอน ตาม rabbit daily มาเลยค่ะ
5 เมืองน่ารักในอิตาลี ดีต่อใจ ไปแล้วหลงรัก
Alberobello


เมืองเล็กๆ ที่มีความหมายในภาษาอิตาลีว่า “ต้นไม้ที่งดงาม” ตั้งอยู่ในแคว้นปุลยา ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี มีประชากรอาศัยเพียง 11,000 คน ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นพิกัดน่ารักแสนอบอุ่นที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการท่องเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ จุดเด่นของ Alberobello คือสิ่งก่อสร้างพื้นเมืองที่เรียกว่า “Trullo” ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยแบบกระท่อมหิน มีหลังคาทรงกรวย Alberobello ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมตั้งแต่ปี 1996 ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความน่ารักของเมืองเล็กๆ น่ารักนี้มากมาย
Atrani


Atrani ตั้งอยู่ในเมืองซาเลอโน แคว้นคัมปาเนีย ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอิตาลี มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวเพราะเป็นเมืองท่าเล็กๆ ที่เหมาะสำหรับพักผ่อนตากอากาศแบบส่วนตัวเพื่อหลีกหนีความวุ่นวายจากภายนอก ก่อตั้งโดยขุนนางชาวโรมันยุคโบราณ ความงดงามของสถานที่แห่งนี้คือตั้งอยู่ติดกับภูเขา เบื้องหน้าเป็นชายหาดที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีท้องฟ้าสีคราม ส่วนสิ่งก่อสร้างก็ยังคงรักษาความคลาสสิกแบบเดิมเอาไว้ มีโบสถ์ประจำหมู่บ้าน และร้านค้าต่างๆ ให้ได้เดินชมแบบเพลิดเพลินใจ หากกำลังมองหาพิกัดพักผ่อนแบบส่วนตัวและวิวดีละก็ Atrani เหมาะที่จะเป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ เลยละ
Burano


บูราโน เป็นชื่อของเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งในทะเลสาบเวนิเทีย (Venetian Lagoon) ทางตอนเหนือของประเทศ อาจเรียกว่าเป็น “เมืองเวนิสจิ๋ว” ก็ได้ บนเกาะบูราโนมีหมู่บ้านน่ารักๆ แห่งหนึ่งที่มีอายุเก่าแก่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 สิ่งที่เตะตานักท่องเที่ยวมากที่สุดคือความเป็นระเบียบของบ้านเรือนแต่ละหลังที่สร้างเรียงกัน ทุกหลังทาสีสันสวยงาม ในหมู่บ้านมีทั้งโฮสเทลและร้านค้าให้บริการ แถมยังมีคลองเล็กๆ ตัดผ่านอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือชมรอบเมืองได้ นอกจากนี้ศิลปินยังชอบมานั่งวาดภาพบรรยากาศบ้านเมืองของที่นี่ เรียกได้ว่าเป็นพิกัดที่สร้างแรงบันดาลใจชั้นดีให้คนรักศิลปะเลยละค่ะ
Bagnoregio


เมือง Bagnoregio อยู่ในจังหวัดวิเตอร์โบ ทางตอนกลางของอิตาลี เป็นเมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน สร้างโดยชาวอีทรัสคันเมื่อราว 2,500 ปีก่อน และยังเป็นบ้านเกิดของ “โบนาเวนตูรา” นักปรัชญาชาวอิตาลีผู้โด่งดัง ความมีเสน่ห์ของเมืองแห่งนี้คือตั้งอยู่บนภูเขาสูง สามารถมองเห็นวิวของแม่น้ำ Tiber จากด้านบนได้ หากคุณต้องการไปชมเมืองโบราณแห่งนี้ สามารถเดินเท้าผ่านสะพานหินยาวที่ทำหน้าที่เสมือนเชื่อมต่อสายธารประวัติศาสตร์ให้คุณได้เข้าไปสัมผัสสถาปัตยกรรมเก่าแก่และทรงคุณค่า พร้อมทั้งจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองแห่งนี้ด้วย หากไปเยือนในช่วงฤดูหนาว คุณจะได้เห็นภาพม่านหมอกสีขาวหนาปกคลุมเมือง ดูลึกลับและน่าค้นหาอย่างยิ่ง
Vernazza


Vernazza เมืองสุดน่ารักที่จะทำให้คุณรู้สึกราวกับหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเทพนิยาย เมืองนี้ตั้งอยู่ในนครลา สปีเซีย แคว้นลีกูเรีย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี เป็นเมืองท่าริมทะเลที่มีชายหาดสวยงาม เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวผู้รักธรรมชาติ เพราะนอกจากทะเลสีครามใสสะอาดแล้ว ยังมีภูเขาสูงและหน้าผาให้คนที่อยากผจญภัยได้ไปเทรคกิ้งกันเพลินๆ บนเส้นทางที่ปลอดภัยไว้ใจได้อีกด้วย ทั้งนี้ Vernazza เป็นส่วนหนึ่งของ “ชิงเกว แตร์เร” (Cinque Terre) ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นพิกัดที่ต้องอนุรักษ์ของยูเนสโก นอกจากที่พักสีพาสเทลที่จะทำให้คุณตกหลุมรักแล้ว ยังมีร้านอาหารทะเลสดๆ ให้ได้อิ่มหนำสำราญกันด้วย เพราะพื้นเพดั้งเดิมของชาวเมืองนั้นประกอบอาชีพประมงนั่นเอง
เป็นยังไงกันบ้างกับ 5 เมืองสุดน่ารักที่ rabbit daily นำมาเสนอกัน เรียกได้ว่าเป็นความงามที่ซ่อนเร้นของประเทศอิตาลีจริงๆ สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะเดินทางไปเยือนอิตาลีละก็ ลองเปลี่ยนจากไปเที่ยวเมืองใหญ่ๆ มาเป็นเที่ยวเมืองเล็กๆ ที่จะสร้างความประทับใจให้คุณดูก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะนักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน จะได้มีโอกาสได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศของอิตาลีอย่างเต็มที่ไปเลย
ขอบคุณข้อมูลจาก

Rabbit Daily Bangkok’s No.1 Lifestyle Magazine เว็บไซต์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนเมือง อัพเดทบทความใหม่ๆ พร้อมเนื้อหาสาระอัดแน่นจากนักเขียนคุณภาพ พบกับไลฟ์สไตล์ที่ใช่ อย่างที่คุณชอบที่ Rabbit Daily
อ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ยุโรป
สแกนดิเนเวีย (Scandinavia) คือกลุ่มประเทศยุโรปเหนือ ประกอบไปด้วย 3 ประเทศด้วยกัน ได้แก่ ประเทศสวีเดน ประเทศนอร์เวย์ ประเทศเดนมาร์ก แต่ถ้าเพื่อนๆ รวมประเทศฟินแลนด์และประเทศไอซ์แลนด์เข้าไปด้วย ก็จะเรียกว่ากลุ่มประเทศนอร์ดิก (Nordic) ด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรมตามสถานที่ต่างๆ...
ประเทศสวีเดนเป็นที่ตั้งอยู่ในแถบสแกนดิเนเวีย เพียบพร้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบตั้งแต่สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ไปจนถึงแหล่งช้อปปิ้งสุดทันสมัย ประเทศสวีเดนเป็นประเทศที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะอากาศดี มีทิวทัศน์ที่สวยงาม และมีเมืองน่าเที่ยวหลายเมืองนอกเหนือจากสตอกโฮล์ม (Stockholm) ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศ อย่างเช่นวันนี้ที่เรามี 7 เมืองน่าเที่ยวในสวีเดนที่เรานำมาฝากกัน 7 เมืองน่าเที่ยวของสวีเดน สตอกโฮล์ม (Stockholm)...
หากเพื่อนๆ มีโอกาสไปเที่ยวประเทศในสแกนดิเนเวีย เราขอแนะนำให้แวะไปเที่ยวที่ประเทศไอซ์แลนด์ (Iceland) ซึ่งอยู่บริเวณแถบสแกนดิเนเวียด้วย เพราะประเทศไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่มีสภาพภูมิอากาศหลากหลาย ในหนึ่งวันเราอาจจะได้พบกับสภาพอากาศร้อน หนาว หิมะตก ฝนตกครบเลยก็ได้ เนื่องจากไอซ์แลนด์ตั้งอยู่บนเกาะในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ โดยมีเรคยาวิก (Reykjavík) เป็นเมืองหลวงของประเทศ แต่ละฤดูของประเทศไอซ์แลนด์นั้นก็มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป...
ไอร์แลนด์ (Ireland) เป็นประเทศที่มีลักษณะเป็นเกาะ แบ่งออกเป็นสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของประเทศอังกฤษ และไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอังกฤษนั่นเอง ไอร์แลนด์และไอร์แลนด์เหนือเป็นประเทศที่มีปราสาทจำนวนมาก เพราะเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน และมีธรรมชาติที่งดงามอีกด้วย ดังนั้นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของการท่องเที่ยวไอร์แลนด์ก็คือการเที่ยวปราสาทนั่นเอง และเอ็กซ์พีเดียเองก็ไม่พลาดมาแนะนำปราสาทสวยๆ ในไอร์แลนด์และไอร์แลนด์เหนือที่ไม่ควรพลาดไปเที่ยวกัน ไอร์แลนด์สุดยอดแห่งดินแดนปราสาท ปราสาทดับลิน...
หากจะพูดถึงเมืองที่มีความคลาสสิกและโรแมนติก ที่มีศิลปะสไตล์ยุโรปร่วมสมัยให้เราได้ชื่นชม ต้องยกให้มิวนิค (Munich) เมืองหลวงในรัฐบาวาเรีย (Bavaria) ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมัน ในอดีตมิวนิคเคยเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรียจึงทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิกและงดงาม มีสถานที่ท่องเที่ยวดีๆ อยู่ทั่วทั้งเมือง ไม่ว่าจะเป็นพระราชวัง โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ อาคารต่างๆ อย่างที่วันนี้เอ็กซ์พีเดียนำมาฝากกัน...