โดย Expedia Team, 20 November 2018

“สเปน” ราชอาณาจักรแห่งสถาปัตยกรรมอันล้ำค่า

หากถามนักเดินทางหลายๆ คนว่าไปเที่ยวประเทศไหนแล้วประทับใจที่สุด หนึ่งในคำตอบที่ได้ยินบ่อยๆ คงหนีไม่พ้นสเปน ประเทศที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป ที่มีทุกอย่างพร้อมรอให้เพื่อนๆ ไปสัมผัส ไม่ว่าจะชอบสถาปัตยกรรมสุดอลังการ ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วัฒนธรรมพื้นเมืองที่มีเสน่ห์ อาหารรสชาติเลิศ ทีมฟุตบอลสุดเจ๋ง หรือแม้แต่ชอบเดินเล่นชมเมืองสวยๆ ที่สเปนนั้นก็มีครบจบในทริปเดียว วันนี้เอ็กซ์พีเดียจึงได้รวบรวม 5 เมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจในสเปนพร้อมที่เที่ยวสวยๆ มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน

“สเปน” ราชอาณาจักรแห่งสถาปัตยกรรม

info-spain-01


1

บาร์เซโลน่า (Barcelona)

1.Barcelona-1

1.Barcelona-2
1.Barcelona-3
ภาพจาก : iStockPhoto

บาร์เซโลนา เมืองหลวงชื่อดังของแคว้นคาตาโลเนีย (Catalonia) เป็นเมืองท่าสำคัญและเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของสเปนด้วย บาร์เซโลนาเป็นหนึ่งในเมืองที่ผู้คนเดินทางไปท่องเที่ยวมากที่สุดในยุโรป เทศกาลหรือเฟียสต้าใหญ่ๆ สุดโด่งดังก็จัดกันที่นี่ อย่างลา เมอร์ซี (La Mercè) เทศกาลใหญ่สุดอลังการของสเปนที่มีการแสดงพลุ ขบวนแห่ การแสดงดนตรี ฯลฯ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในบาร์เซโลนา เช่น

◆ มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย (Sagrada Familia) : มหาวิหารซากราดา แฟมิเลียเป็นโบสถ์โรมันคาธอลิกขนาดใหญ่ที่ออกแบบโดยอันโตนี เกาดี (Antoni Gaudí) สถาปนิกชื่อดังของบาร์เซโลนา เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1882 แต่หยุดการก่อสร้างไปในช่วงสงครามกลางเมืองสเปน ปัจจุบันมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2026 เมื่อสร้างเสร็จจะมีหอคอย 18 หอคอยที่ตั้งตระหง่านกลางเมือง แม้ว่าในปัจจุบันจะยังสร้างไม่เสร็จแต่ความสวยงามและความอลังการก็ไม่แพ้โบสถ์อื่นๆ เลย ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายมาเป็นสัญลักษณ์สำคัญของบาร์เซโลนาและประเทศสเปน

◆ ปาร์ค กูเอล (Park Guell) : สวนสาธารณะสุดอาร์ตที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เป็นอีกผลงานของสถาปนิกชื่อดัง อันโตนี เกาดี (Antoni Gaudí) ในสไตล์อาร์ตนูโวที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ภายในสวนสาธารณะเต็มไปด้วยงานศิลปะมากมาย เน้นไปที่งานโมเสกเป็นส่วนใหญ่

◆ โกธิคควอเตอร์ (Gothic Quarter) :  หากใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของศิลปะสไตล์โกธิค ต้องแวะมาเที่ยวโกธิคควอเตอร์แห่งนี้ให้ได้ โกธิคควอเตอร์เป็นย่านหนึ่งใจกลางบาร์เซโลนา ในอดีตเป็นที่อยู่ของชาวโรมันโบราณ บ้านเรือนมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค นอกจากบ้านเรือนแล้วอีกที่ห้ามพลาดก็คือมหาวิหารบาร์เซโลนา (Barcelona Cathedral) มหาวิหารสไตล์โกธิคที่มีความสวยงามไม่เป็นสองรองใคร

◆ ถนนคนเดินลา รัมบลาส (La Ramblas) : ถนนคนเดินสุดเก๋สำหรับคนที่ชอบเสพงานศิลป์ สองข้างทางมีผลงานศิลปะมากมายให้เราได้เลือกซื้อ นอกจากนี้อาคารต่างๆ บริเวณถนนคนเดินลา รัมบลาสยังมีความสวยงาม ทำให้เราได้ชมทั้งผลงานศิลปะ ทั้งอาคารสวยๆ บอกเลยว่าคุ้มค่าต่อการเดินทางไปอย่างแน่นอน

◆ คัมป์นู (Camp Nou) : ที่สุดท้ายในบาร์เซโลนาที่คนรักฟุตบอลต้องห้ามพลาด คัมป์นูเป็นสนามเหย้าของสโมสรทีมฟุตบอลบาร์เซโลนา (FC Barcelona) สโมสรฟุตบอลชื่อดังของสเปน นอกจากนี้ยังเป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในสเปนและในยุโรปอีกด้วย สามารถจุผู้ชมได้ถึง 99,354 ที่นั่ง เพื่อนๆ สามารถเข้าไปเดินชมสนามรวมถึงห้องพักนักกีฬาได้

การเดินทาง
พักที่ไหนดี?
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว
เดือนเมษายน – เดือนมิถุนายน และเดือนกันยายน – เดือนตุลาคม

[package_deals title=’ดีลแนะนำ กรุงเทพฯ-บาร์เซโลนา’ deals=’packages,flights,hotels’ ]

2

มาดริด (Madrid)

2.Madrid-1

2.Madrid-2
2.Madrid-3
ภาพจาก : iStockPhoto

หลายคนบอกว่าถ้าอยากเห็นสเปนที่แท้จริงต้องไปมาดริด เมืองหลวงของสเปน เพื่อซึมซับบรรยากาศของสเปนแบบแท้ๆ ทั้งผู้คน ความเป็นอยู่ ร้านค้าท้องถิ่น ฯลฯ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในมาดริด เช่น

◆ พระราชวังหลวงแห่งกรุงมาดริด (Royal Palace of Madrid) :  พระราชวังหลวงแห่งกรุงมาดริดเป็นที่ประทับของราชวงศ์สเปน ภายในมีห้องถึง 3,418 ห้อง นับเป็นหนึ่งในพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป สถาปัตยกรรมของพระราชวังหลวงแห่งกรุงมาดริดเป็นศิลปะสไตล์บาโรคผสมกับคลาสสิก หรูหราทั้งภายนอกและภายใน ควรค่าแก่การไปชมให้เห็นกับตาสักครั้งในชีวิต

◆ จตุรัสพลาซ่ามายอร์ (Plaza Mayor) : พลาซ่ามายอร์เป็นจัตุรัสกลางเมืองมาดริด ลักษณะเป็นลานกว้างล้อมรอบด้วยอาคารสไตล์โรมันสูงสามชั้น ภายในอาคารมีทั้งโรงแรมหรู ร้านค้า และร้านอาหาร บริเวณลานเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวสเปน รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาชมอาคารแห่งนี้ ในอดีตลานแห่งนี้เคยใช้ประกอบพิธีสำคัญมากมายของสเปน นอกจากนี้ยังเป็นลานใช้จัดกิจกรรมต่างๆ เช่น กีฬาสู้วัวกระทิงอันโด่งดังของสเปนอีกด้วย

◆ ถนนแกรนเบีย (Gran Via) : ถนนแกรนเบียหรือเกรทเวย์ (Great Way) ถนนช้อปปิ้งใจกลางมาดริด เต็มไปด้วยร้านค้าสุดหรูมากมายให้เพื่อนๆ ได้เลือกซื้อสินค้ากลับบ้าน นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นถนนแห่งการช้อปปิ้งแล้วยังมีอีกชื่อเรียกเล่นๆ ว่าเป็นถนนบรอดเวย์แห่งสเปน (Spanish Broadway) เพราะมีโรงละครให้เพื่อนๆ ไปเลือกชมกันได้ แถมยังเป็นถนนที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่ไม่เคยหลับใหล ดึกๆ ใครเหงาต้องไปแกรนเบียเลย

◆ วัดเดโบด (Temple of Debod) : วัดโบราณอันสวยงามของอียิปต์ซึ่งจะสวยเป็นพิเศษในตอนกลางคืนที่มีการเปิดไฟประดับอย่างสวยงาม วัดเดโบดเป็นวัดที่อียิปต์มอบให้แก่สเปนเพื่อให้ช่วยรักษาโบราณสถานไว้จากการสร้างเขื่อนในภูมิภาคนูเบีย (Nubia) ซึ่งวัดเดโบดเป็น 1 ใน 4 วัดที่อียิปต์มอบให้แก่ประเทศต่างๆ อีก 3 วัดอยู่ในประเทศเนเธอแลนด์ อิตาลี และสหรัฐอเมริกา

◆ ปูเอร์ตาเดลโซล (Puerta del Sol) : อีกหนึ่งจัตุรัสที่เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่คนเดินทางมาเยอะที่สุดในมาดริด มีแลนด์มาร์คเป็นหอนาฬิกาขนาดใหญ่ที่เป็นสถานที่จัดงานเคาท์ดาวน์ของสเปนด้วย

การเดินทาง
พักที่ไหนดี?
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว
เดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม และเดือนกันยายน – เดือนพฤศจิกายน

[package_deals title=’ดีลแนะนำ กรุงเทพฯ-มาดริด’ deals=’packages,flights,hotels’ origin=’BKK’ destination=’MAD’ dest_region=’178281′ ]

3

มาลากา (Málaga)

3.Malaga-1

3.Malaga-2
3.Malaga-3
ภาพจาก : iStockPhoto

มาลากาเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของสเปนเพราะมีธรรมชาติอันสวยงาม ตั้งอยู่ริมชายฝั่งติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ส่วนด้านหลังก็มีภูเขาโอบล้อม จึงสามารถเที่ยวได้ทั้งภูเขาและทะเล เรียกได้ว่ามาเมืองเดียวรับรองคุ้ม สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในมาลากา เช่น

◆ ป้อมปราการแอลคาซาบาแห่งมาลากา (Alcazaba of Málaga) : ป้อมปราการแอลคาซาบาแห่งนี้ดูจากภายนอกจะเห็นเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเนินเขา แต่แท้จริงแล้วภายในเป็นโรงละครโรมันที่มีสวนให้เพื่อนๆ เดินชมกันได้ แอลคาซาบานั้นนับว่าเป็นอาคารโบราณที่สมบูรณ์มากแห่งหนึ่งในสเปน

◆ รอนดา (Ronda) : ออกจากมาลากาประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อนๆ จะได้พบกับรอนดา (Ronda) เมืองเล็กๆ ที่ใครต่างก็บอกว่าสวยงามที่สุดในสเปน ตั้งอยู่บนหุบเขาที่มีเหวลึกลงไปกว่า 300 เมตร บริเวณด้านล่างมีแม่น้ำไหลผ่าน ไฮไลท์ของเมืองเล็กๆ แห่งนี้คือการขึ้นไปยืนบนสะพานสไตล์โรมันที่เชื่อมสองฟากฝั่งไว้แล้วมองดูบ้านเรือนริมหน้าผาพร้อมชมพระอาทิตย์ตกดินลับขอบฟ้านั่นเอง

◆ เอล คามินิโต เดล เรย์ (El Caminito Del Rey) : ใครรักความหวาดเสียวต้องไปที่เอล คามินิโต เดล เรย์ให้ได้ ที่นี่เป็นเส้นทางเลาะริมผาที่ถูกจัดอันดับให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดโหด ทางเดินริมหน้าผาแห่งนี้มีความกว้างเพียงแค่ 1 เมตรเท่านั้น ในอดีตทางเดินเคยทรุดโทรมกว่านี้มาก แต่ปัจจุบันได้มีการซ่อมแซมให้ปลอดภัยอย่างแน่นอน และรับรองได้เลยว่าวิวทิวทัศน์ของที่นี่สวยเกินบรรยายจริงๆ

การเดินทาง
พักที่ไหนดี?
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว
ปลายเดือนมีนาคม – กลางเดือนมิถุนายน และเดือนตุลาคม – เดือนพฤศจิกายน

[package_deals title=’ดีลแนะนำ กรุงเทพฯ-มาลากา’ deals=’packages,flights,hotels’ origin=’BKK’ destination=’AGP’ dest_region=’312′ ]

4

บาเลนเซีย (Valencia)

4.Valencia-1

4.Valencia-2
4.Valencia-3
ภาพจาก : iStockPhoto

ใครรักสถาปัตยกรรมแบบยุโรปยุคโบราณต้องห้ามพลาดบาเลนเซีย เมืองที่เก่าแก่ที่สุดในสเปน บาเลนเซียเป็นเมืองที่มีความสำคัญมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ทำให้ปัจจุบันบาเลนเซียกลายเป็นเมืองศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของสเปน สถาปัตยกรรมภายในเมืองก็มีรูปแบบโรมันโบราณที่มีความสดงดงามมากเลยทีเดียว สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในบาเลนเซีย เช่น

◆ มหาวิหารซานตามาเรียแห่งบาเลนเซีย (Catedral de Santa Maria de Valencia) : ที่สุดแห่งความอลังการของสถาปัตยกรรมต้องที่มหาวิหารแห่งนี้ มหาวิหารซานตามาเรียแห่งบาเลนเซียสร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานทั้งโกธิค นีโอคลาสสิค บาโรค และอีกมากมาย ตระการตาเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ภายในยังมีรูปวาดจากสมัยศตวรรษที่ 15 ที่วาดโดยศิลปินท้องถิ่นให้เพื่อนๆ ได้ชมอีกด้วย

◆ พลาซ่า เดอ ลา บีร์เกน (Plaza de la Virgen) : พลาซ่า เดอ ลา บีร์เกน หรือจตุรัสบีร์เกน จัตุรัสเล็กๆ อันเก่าแก่ที่ตั้งอยู่กลางใจเมืองบาเลนเซีย มีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยยุคสมัยโรมัน จัตุรัสแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยอาคารสำคัญในบาเลนเซียถึงสามอาคาร ได้แก่ มหาวิหารซานตามาเรียแห่งบาเลนเซีย (Catedral de Santa Maria de Valencia) บาซิลิกา เดอ ลา บีร์เกน (Basílica de la Virgen) และพระราชวังเจเนราลิตัต (Palace of the Generalitat) มาที่เดียวได้เก็บสถานที่สำคัญถึง 3 ที่ ใครที่อยากลองย้อนไปอยู่ในยุคเก่าต้องมาเดินเล่นที่นี่เลย

◆ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอเชียโนกราฟิก บาเลนเซีย (Oceanogràfic Valencia) : นอกจากจะเป็นเมืองที่มีความสำคัญในอดีตแล้ว บาเลนเซียยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ดีที่สุดในสเปน และติดอันดับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำของโลกอีกด้วย พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในยุโรป สามารถจำลองระบบนิเวศน์ได้สมจริง นอกจากนี้ตัวอาคารด้านนอกยังสวยงามแปลกตา มีลักษณะเป็นรูปทรงดอกลิลลี่อีกด้วย

การเดินทาง
พักที่ไหนดี?
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว
เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม

[package_deals title=’ดีลแนะนำ กรุงเทพฯ-บาเลนเซีย’ deals=’packages,flights,hotels’ origin=’BKK’ destination=’VLC’ dest_region=’6023332′ ]

4

เกาะอิบิซา (Ibiza)

5.Ibiza-1

5.Ibiza-2
5.Ibiza-3
ภาพจาก : iStockPhoto

ใครกำลังมองหาปลายทางในยุโรปที่ทั้งวัยรุ่นวัยเก๋าเดินทางไปเพื่อปาร์ตี้สุดเหวี่ยงให้ลืมอายุกันก็ต้องนึกถึงเกาะอิบิซา อิบิซาเป็นเกาะในสเปนที่ตั้งอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โด่งดังมากในเรื่องของงานปาร์ตี้สังสรรค์ นอกจากนี้อาคารบ้านเรือนภายในเกาะยังน่ารัก เน้นโทนสีขาว เหมาะกับวันพักผ่อนจริงๆ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในอิบิซา เช่น

◆ กาลา กอนตา/กาลา กอมเต​ (Cala Conta/Cala Comte) : ชายหาดยอดนิยมในสเปนที่ยาวกว่า 800 เมตร น้ำทะเลบริเวณนี้มีสีฟ้าใสยิ่งกว่าสระว่ายน้ำ มองลงไปเห็นทรายก้นทะเล บริเวณนี้นอกจากจะอาบแดดและเล่นน้ำทะเลได้แล้ว ยังมีกิจกรรมยอดฮิตอีกอย่างคือการปั่นเรือถีบ (Pedalos) นั่นเอง

◆ ปลายา เดน บอสซา (Platja d’en Bossa) : ย่านรีสอร์ทสุดหรูบนเกาะอิบิซา นอกจากนี้ยังมีผับ บาร์ ให้เพื่อนๆ ได้ไปสังสรรค์กันอีกด้วย ตอนกลางวันบริเวณนี้ค่อนข้างเงียบสงบ แต่ตอนกลางคืนจะคึกคักเป็นพิเศษ

◆ เมืองเก่าอิบิซา (Ibiza Old Town) : อิบิซาไม่ได้มีแค่ทะเล แต่ยังมีย่านเมืองเก่าที่มีอาคารโบราณคุมโทนสีขาวตั้งเรียงรายกันอยู่บนเกาะ ซึ่งบริเวณเมืองเก่านอกจากจะมีร้านอาหารและร้านค้าแล้ว ยังมีมหาวิหารซานตา มาเรีย เดออีวิซซา (Santa Maria de’Eivissa) ตั้งโดดเด่นอยู่บนยอดเขาอีกด้วย

การเดินทาง
พักที่ไหนดี?
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว
เดือนพฤษภาคม – เดือนตุลาคม

[package_deals title=’ดีลแนะนำ กรุงเทพฯ-อิบิซา’ deals=’packages,flights,hotels’ origin=’BKK’ destination=’IBZ’ dest_region=’602653′ ]