โดย Expedia Team, 23 September 2017

เที่ยวรัสเซียให้สนุก ต้องวางแผนอะไรบ้าง

รัสเซีย เป็นประเทศในฝันของใครหลายคน เนื่องจากเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่กว่า 17.1 ล้านตารางกิโลเมตร จึงมีความหลากหลายทางภูมิประเทศและวัฒนธรรม รวมถึงมีสถาปัตยกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นอยู่มากมาย การเดินทางไปเที่ยวรัสเซียด้วยตัวเองก็ไม่ได้ยากเย็นอย่างที่คิด แถมที่นี่ยังฟรีวีซ่าสำหรับคนไทยอีกด้วย แต่ก่อนจะออกเดินทางไปเที่ยวให้สนุกก็ต้องมาดูกันก่อนว่าควรจะวางแผนอะไรบ้าง Expedia ได้นำลิสต์แผนที่คุณต้องวางก่อนไปเที่ยวรัสเซียมาฝากแล้ว!

info-Russia-03

เที่ยวรัสเซียให้สนุก ต้องวางแผนอะไรบ้าง


1

วางแผนเรื่องช่วงเวลาการท่องเที่ยวและเตรียมเครื่องแต่งกายให้เหมาะสม

1.วางแผนเรื่องช่วงเวลาการท่องเที่ยวและเตรียมเครื่องแต่งกาย-3

1.วางแผนเรื่องช่วงเวลาการท่องเที่ยวและเตรียมเครื่องแต่งกาย-2
1.วางแผนเรื่องช่วงเวลาการท่องเที่ยวและเตรียมเครื่องแต่งกาย
ภาพจาก : iStockPhoto

ประเทศรัสเซียมี 4 ฤดู ใครอยากไปสัมผัสรัสเซียในฤดูไหนก็ต้องมาวางแผนเลือกช่วงเวลากันก่อน แต่ Expedia ต้องบอกไว้เลยว่าทุกฤดูของประเทศรัสเซียมีอากาศหนาวเย็นกว่าประเทศไทย ดังนั้นเสื้อผ้าที่เตรียมไปก็ควรเป็นเสื้อผ้าสำหรับหน้าหนาว เสื้อกันหนาว ถุงมือ ผ้าพันคอ ควรพกไปให้ครบเพื่อช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย เพราะในบางครั้งถึงอุณหภูมิจะไม่สูงมาก แต่หากมีลมแรงก็จะทำให้อากาศหนาวเย็นขึ้นได้ ถ้าเตรียมเครื่องแต่งกายไม่พร้อมอาจจะทำให้หมดสนุกไปจนถึงล้มป่วย สำหรับช่วงเดือนที่น่าเที่ยวรัสเซียที่สุดคือช่วงเดือนพฤษภาคม เพราะอากาศจะเย็นสบาย ต้นไม้เริ่มผลิดอกออกผล มีทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นพิเศษ

ฤดู เดือน รายละเอียด
ฤดูร้อน มิถุนายน – สิงหาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 15-20 องศา ช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดในรัสเซียคือเดือนกรกฎาคม อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 25-30 องศา
ฤดูใบไม้ร่วง กันยายน – พฤศจิกายน ภูมิประเทศในช่วงเวลานี้จะสวยงามเป็นพิเศษ เพราะเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสี มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10 องศา และอุณหภูมิจะลดลงไปเรื่อยๆ ในเดือนพฤศจิกายนอาจเริ่มมีหิมะตก
ฤดูหนาว ธันวาคม – กุมภาพันธ์ มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ -10 องศา หิมะจะตกหนักในช่วงกลางเดือนมกราคม – เดือนกุมภาพันธ์ ถนนและอาคารบ้านเรือนจะปกคลุมไปด้วยหิมะ
ฤดูใบไม้ผลิ มีนาคม – พฤษภาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 5 องศา น้ำแข็งที่เกิดจากหิมะเริ่มละลาย อากาศอบอุ่นขึ้น

 

2

วางแผนเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว

ประเทศรัสเซียเปิดฟรีวีซ่าสำหรับคนไทย โดยสามารถพักอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน และเนื่องจากรัสเซียเป็นประเทศที่กว้างใหญ่และมีเมืองท่องเที่ยวอยู่หลายเมืองด้วยกัน ดังนั้นสิ่งแรกที่เราจะต้องวางแผนก็คือสถานที่ท่องเที่ยวหรือเมืองท่องเที่ยวนั่นเอง ใครลางานได้ไม่เยอะก็อาจจะใช้เวลาท่องเที่ยวอยู่ในเมืองใดเมืองหนึ่ง หรือหากใครลางานได้หลายวันเพียงพอสำหรับการเดินทางข้ามไปเมืองอื่นๆ ก็อาจจะใช้เวลาท่องเที่ยวไปตามเมืองต่างๆ ได้ เพราะรัสเซียมีระบบการขนส่งระหว่างเมืองที่สะดวกสบายมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว การเริ่มต้นเที่ยวรัสเซียที่สะดวกที่สุดก็คือการนั่งเครื่องบินไปลงที่ เมืองมอสโก และเริ่มต้นท่องเที่ยวในเมืองหลวงแห่งนี้ก่อน จากนั้นจึงเดินทางต่อไปยังเมืองอื่นๆ สำหรับเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางหลักๆ ของรัสเซีย ได้แก่ มอสโก ซุสดาล โนฟโกรอด และเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

 

 

มอสโก (Moscow)
2.มอสโก-Moscow-2
2.มอสโก-Moscow-1
ภาพจาก : iStockPhoto

มอสโก คือเมืองหลวงของประเทศที่เป็นศูนย์รวมความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่และสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาหลายยุคสมัย ตัวเมืองร่มรื่น มีต้นไม้อยู่ทุกที่จนได้รับฉายาว่าเป็นเมืองสีเขียว และมีแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรรมอยู่มากมาย เป็นจุดหมายปลายทางแรกในการเที่ยวรัสเซียของหลายๆ คน แหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ของเมืองมอสโก ได้แก่ พระราชวังเครมลิน (The Kremlin) วิหารเซนต์บาซิล (St Basil Cathedral) จตุรัสแดง (Red Square) และพระราชวังคุสโกโว (Kuskovo Estate) เป็นต้น

การเดินทาง
พักที่ไหนดี?

 

ซุสดาล (Suzdal)
2.ซุสดาล-Suzdal-4
2.ซุสดาล-Suzdal-3
ภาพจาก : iStockPhoto

ซุสดาล เป็นเมืองที่ได้รับฉายาว่า “เมืองยุโรปโบราณ” เนื่องจากอาคารบ้านเรือนของที่นี่ยังคงสภาพแบบยุโรปโบราณเอาไว้เกือบทั้งหมด ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมต้องห้ามพลาด เพราะไปเที่ยวเมืองซุสดาลก็เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสวิถีชีวิตและสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียสมัยหลายศตวรรษก่อน เมืองซุสดาลรักษาความเป็นเมืองโบราณไว้ได้เป็นอย่างดีด้วยการไม่สร้างตึกสูงหรืออาคาร ร้านอาหารทันสมัยเลย มีก็เพียงแต่ร้านค้าและตลาดแบบเก่าเท่านั้น แถมยังมีรถม้าไว้คอยให้บริการในเมืองอีกด้วย สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองนี้ได้แก่ พระราชวังซุสดาลเครมลิน (Suzdal Kremlin) อารามแห่งการสวดอ้อนวอน (Intercession Monastery) พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมไม้แห่งซุสดาล (Museum Of Wooden Architecture) และอารามริโซโปโลเซนสกี้ (Rizopolozhensky)

การเดินทาง
พักที่ไหนดี?

 

โนฟโกรอด (Novgorod)
2.โนฟโกรอด-Novgorod-5
2.โนฟโกรอด-Novgorod-6
ภาพจาก : iStockPhoto

โนฟโกรอด เป็นเมืองเก่าแก่ในรัสเซียยุคกลางที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ตั้งอยู่ระหว่างเมืองมอสโกและเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เคยเป็นศูนย์กลางการปกครองและวัฒนธรรมที่สำคัญในอดีต สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ได้แก่ วิหารเซนต์โซเฟีย (St.Sophia) พิพิธภัณฑ์ศิลปะรัสเซีย (Fine Arts Museum) และเขตการค้าเก่ายาโรสลาฟ (Yaroslav’s Court)

การเดินทาง
พักที่ไหนดี?

 

เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (St.Petersburg)
2.เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก-St.Petersburg-7
2.เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก-St.Petersburg-8
ภาพจาก : iStockPhoto

เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นเมืองท่าหลักและเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของรัสเซีย รวมถึงเป็นจุดหมายหลักๆ ในการเที่ยวรัสเซียของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย ที่นี่เป็นศูนย์กลางทางศิลปะ วรรณกรรม และดนตรีที่ขึ้นชื่อจนได้รับคัดเลือกจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ได้แก่ The Hermitage พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในโลก พิพิธภัณฑ์รัสเซีย (Russia Museum) โบส์แห่งหยดเลือด ( Church Of Christ’s Resurrection ) พระราชวังฤดูหนาว ( Winter Palace ) และเสาอเล็กซานเดอร์

การเดินทาง
พักที่ไหนดี?

3

วางแผนเรื่องการเดินทาง

3.วางแผนเรื่องการเดินทาง
3.วางแผนเรื่องการเดินทาง-2
ภาพจาก : iStockPhoto

การเดินทางในเมืองและระหว่างเมืองของประเทศรัสเซียค่อนข้างสะดวกสบาย ทำให้เรื่องการวางแผนเดินทางเป็นเรื่องง่ายตามไปด้วย ให้เพื่อนๆ ลองคำนวณดูก่อนว่าแต่ละสถานที่ในลิสต์ของเรานั้นสามารถเดินทางแบบใดได้บ้าง แต่ละแบบใช้เวลาเท่าไหร่หรือเสียค่าโดยสารเท่าไหร่ แล้วค่อยนำมาเปรียบเทียบกัน โดยเลือกวิธีการเดินทางที่เหมาะสมกับเวลาและงบประมาณของเราที่สุด การเดินทางในเมืองหลักๆ ของรัสเซียจะแบ่งออกเป็น 4 วิธีหลักๆ คือ

 

รถไฟใต้ดิน

 

รถไฟใต้ดินหรือเมโทร (Metro) จะมีในเมืองหลักคือเมืองมอสโกและเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ครอบคลุมเกือบทุกเส้นทางและสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ในเมือง สัญลักษณ์ของรถไฟใต้ดินคืออักษรตัว M สีแดงบนพื้นหลังสีน้ำเงิน ตัวรถไฟใต้ดินในรัสเซียเองก็ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อด้วย เพราะในแต่ละสถานีจะมีสถาปัตยกรรมและจิตกรรมภายในที่สวยงามหลากหลายรูปแบบและแทบไม่ซ้ำกันเลย เปิดให้บริการระหว่างเวลา 00-01.00 น.

รถเมล์

 

รถเมล์จะมีอยู่ 2 แบบคือรถเมล์ที่ใช้น้ำมันปกติ (Abtobus) และรถเมล์ไฟฟ้า (Tralebus) จอดรับส่งผู้โดยสารทุกป้ายถึงแม้ว่าจะไม่มีผู้โดยสารขึ้นหรือลงในสถานีนั้นๆ เปิดให้บริการระหว่างเวลา 05.30-01.00 น.

รถรางไฟฟ้า

 

รถรางไฟฟ้าหรือ (Tramvai) เป็นพาหนะหลักสำคัญอีกชนิดหนึ่ง วิ่งอยู่ตามรางกลางถนนสายหลักในเมือง จอดรับส่งผู้โดยสารทุกป้ายถึงแม้ว่าจะไม่มีผู้โดยสารขึ้นหรือลงในสถานีนั้นๆ เปิดให้บริการระหว่างเวลา 05.30 – 01.00 น.

แท็กซี่

 

แท็กซี่ในประเทศรัสเซียจะมีสีเหลืองล้วนและสีขาวล้วน คิดค่าโดยสารแบบมิเตอร์และแบบต่อรองราคา สัญลักษณ์ที่ใช้ในการเรียกรถคือกำมือให้เหลือแต่นิ้วโป้ง แล้วยื่นออกไปโดยให้นิ้วโป้งชี้ขึ้นฟ้า

 

การเดินทางระหว่างเมืองของรัสเซียที่นิยมจะแบ่งออกเป็น 2 วิธีหลักๆ คือ

 

รถไฟ

 

การเดินทางโดยรถไฟเป็นการเดินทางระหว่างเมืองที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในรัสเซีย รถไฟที่นี่ตรงเวลา สะอาด สะดวกสบายและมีให้เลือกหลายรูปแบบ โดยรถไฟรัสเซียจะแบ่งออกเป็นรถไฟความเร็วสูง (Sapsan) รถนั่ง และรถนอน เหมาะกับการเที่ยวรัสเซียแบบหลายๆ เมืองเป็นอย่างยิ่ง โดยสามารถเช็คเวลา ราคาค่าโดยสาร และจองตั๋วล่วงหน้าได้ที่นี่

เครื่องบิน

 

การเดินทางระหว่างเมืองที่นิยมกันมากอีกรูปแบบหนึ่งในรัสเซียคือการขึ้นเครื่องบิน หากจองล่วงหน้านานๆ ก็จะได้ราคาที่ค่อนข้างถูกและประหยัดเวลา ใครที่มีเวลาไม่มากนักและอยากจะเที่ยวให้เต็มที่เครื่องบินก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีมากอย่างหนึ่ง

4

วางแผนศึกษาข้อมูลของประเทศรัสเซียและสิ่งของที่ต้องเตรียมไปในการเดินทางเที่ยวรัสเซีย

4.สิ่งของที่ต้องเตรียม

ภาพจาก : iStockPhoto

1) รัสเซียใช้สกุลเงินรูเบิล สามารถแลกจากประเทศไทยไปหรือแลกเงินดอลลาร์ เงินยูโรแล้วไปเปลี่ยนเป็นเงินรูเบิลที่รัสเซียก็ได้

2) คนรัสเซียใช้ภาษารัสเซียเป็นภาษาหลัก แต่คนรุ่นใหม่ก็เริ่มพูดภาษาอังกฤษกันได้มากขึ้น และป้ายสัญลักษณ์ต่างๆ ก็มีภาษาอังกฤษกำกับอยู่ตลอด ดังนั้นการสื่อสารจึงไม่เป็นเรื่องที่น่ากังวลมากนัก

3) รัสเซียใช้ระบบไฟฟ้า 220 โวลต์ เหมือนประเทศไทย แต่ปลั๊กเป็นแบบหัวกลม 2 ขา ดังนั้นควรพก Universal Adaptor ไปเพื่อใช้ในการชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ด้วย

4) ยาประจำตัวหรือยาสามัญประจำบ้านเป็นสิ่งที่ควรพกติดตัวไป เพราะหากไปซื้อที่รัสเซียจะแพงกว่าที่ประเทศไทยค่อนข้างมาก

5) อุปกรณ์กันหนาวเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมเมื่อไปเที่ยวรัสเซียเสื้อกันหนาว เสื้อโค้ท ถุงมือ ผ้าพันคอ ควรเตรียมไว้ให้พร้อม เพราะรัสเซียเป็นประเทศที่มีอากาศเย็นถึงหนาวทุกฤดู

6) ยาประจำตัวหรือยาสามัญประจำบ้านเป็นสิ่งที่ควรพกติดตัวไป เพราะหากไปซื้อที่รัสเซียจะแพงกว่าที่ประเทศไทยค่อนข้างมาก

4

วางแผนเรื่องความปลอดภัย

4.สิ่งของที่ต้องเตรียม-2

ภาพจาก : iStockPhoto

รัสเซียเป็นประเทศที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตามหากไปท่องเที่ยวที่เมืองใหญ่เช่นเมืองมอสโกหรือเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กควรระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย เพราะมีผู้คนจำนวนมาก

1) ระมัดระวังเรื่องการถูกขโมยกระเป๋าหรือข้าวของมีค่าในกระเป๋า เวลาสะพายกระเป๋าควรสะพายกระเป๋าไว้ด้านหน้าตลอด ไม่ควรพกเงินติดตัวเยอะ และไม่ควรพกเงินสดหรือบัตรเครดิตไว้ในกระเป๋าเงินใบเดียว หากแยกไว้หลายๆ กระเป๋าได้จะดีกว่า หากเกิดกรณีสูญหายจะได้มีเงินสดหรือบัตรเครดิตส่วนหนึ่งติดตัวไว้

2) การเดินทางท่องเที่ยวรัสเซียต้องพกหนังสือเดินทางหรือเอกสารแสดงตัวตนไว้กับตัวตลอดเวลา ในกรณีที่มีตำรวจมาขอดูจะได้ใช้ยืนยันตัวตนได้ทันที

3) ระมัดระวังเรื่องการเดินทางช่วงเวลาตอนกลางคืน ไม่ควรออกเดินทางไปที่เปลี่ยวๆ ยามค่ำคืนเพียงลำพัง

ใครที่ชอบอากาศเย็นๆ สถาปัตยกรรมสวยๆ และศิลปวัฒนธรรมที่น่าสนใจก็อย่ารอช้า แพลนทริปแล้วกดจองตั๋วเครื่องบินกับโรงแรมในประเทศรัสเซียที่ Expedia แล้วออกเดินทางไปสำรวจประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้กันได้เลย