TOP 20 สถานที่ท่องเที่ยวโตเกียว ที่ห้ามพลาด!

• 
• 
• 

โตเกียว เมืองที่มีสีสันจากอดีตที่ไม่เคยจางหายไปกับการเวลา วัฒนธรรมซึ่งหลอมรวมเข้ากับความทันสมัย จนเป็นสิ่งดึงดูดให้นักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นความวุ่นวายในภาพของเมืองหลวง ตึกระฟ้า หรือศาลเจ้าที่ซ่อนอยู่ ที่ตอบทุกความต้องการของนักท่องเที่ยว

 

สถานที่ท่องเที่ยวโตเกียว

• หอคอยโตเกียว (Tokyo Tower)
  
  ค่าเข้าชมวิว

  820 และ 1,420 ¥

  ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ

  Akabanebashi หรือ Kamiyacho

  โครงเหล็กสีแดงขาวสูง 332.6 เมตร เป็นที่ไว้ส่งสัญญาณคลื่นวิทยุโทรทัศน์ต่างๆ เช่น NHK TBS ปีหนึ่งจะมีคนเข้าชมมากกว่า 2.5 ล้านคน มีจุดชมทัศนียภาพของหอคอยตั้งอยู่บนความสูง 150 เมตร และ 250 เมตรตามลำดับ
• สะพานสีรุ้ง (Rainbow Bridge)
  
  ค่าเข้าชม

  ฟรี

  ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ

  Odaibakaihinkoen

  เป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองโตเกียว และเกาะโอไดบะ สามารถขับรถ เดิน หรือนั่งรถไฟข้ามผ่านสะพานนี้มาได้ นอกจากเป็นจุดชมวิวแล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางไปช้อปปิ้งที่ห้างไดเวอร์ซิตี้ โตเกียว พลาซ่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของหุ่นกันดั้มขนาดเท่าของจริง
• โตเกียว สกายทรี (Tokyo Skytree)
  
  ค่าเข้าชม

  2,060 และ 3,090 ¥

  ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ

  Tokyo Skytree

  หอกระจายสัญญาณโทรทัศน์โตเกียวสกายทรี นับเป็นสัญลักษณ์ของโตเกียวในยุคสมัยใหม่ก็ว่าได้ หอคอยแห่งนี้ยังได้บรรจุอควาเรี่ยมเอาไว้อีกด้วย จุดสูงสุดของหอคอยแห่งสูงถึง 450 เมตร สามารถเดินขึ้นไปถึงจุดที่สูงที่สุดที่ความสูง 451.2 เมตร เป็นกระจกใสทั้งชั้น สามารถมองเห็นวิวของทั้งเมืองโตเกียวได้รอบด้าน

• ตลาดปลาสึกิจิ (Tsukiji)
  
  เวลาเปิดให้บริการ

  9:00

  ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ

  Tsukijishijo

  ตลาดปลาแห่งแรกในโตเกียวซึ่งมีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี 1935 บรรยากาศความคึกคักของตลาดแห่งนี้เริ่มต้นตั้งแต่เช้ามืดของทุกวัน แต่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้หลัง 09.00 น. ความน่าสนใจของตลาดปลาแห่งนี้ไม่ได้มีเฉพาะตัวตลาดเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงร้านอาหารและแผงลอยตามซอกซอยต่างๆ ร้านแนะนำก็ได้แก่ ซูชิได (Sushi Dai) ไดวะซูชิ (Daiwa Sushi) อุไมซูชิคัง (Umai Sushikan)
• พระราชวังโตเกียว อิมพีเรียล (Imperial Palace)
  
  เวลาเปิดให้บริการ

  9:00 – 16:00 น.

  ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ

  Marunouchi Central

  เคยเป็นที่ตั้งของปราสาทเอโดะแต่ปัจจุบันเป็นที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดิ์และราชวงศ์ญี่ปุ่น ประกอบด้วยสวนขนาดใหญ่ คูเมืองและกำแพงหินล้อมรอบ ในส่วนของนักท่องเที่ยวสามารถชมสะพานได้ 2 สะพาน คือ สะพาน Nijubashi และสะพาน Meganebashi ส่วนด้านในของพระราชวังปกติไม่ได้เปิดให้เข้าชม ยกเว้นวันที่ 2 มกราคม และวันที่ 23 ธันวาคมของทุกปีที่จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้
• มารุโนอูจิ (Marunouchi)
  
  เวลาเปิดให้บริการ

  ตลอดวัน

  ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ

  Tokyo

  เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟโตเกียวซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่คับคั่งที่สุดอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น (มากกว่า 3,000 เที่ยวต่อวัน) ไม่เพียงเท่านี้ตัวสถานียังมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก เพราะตัวอาคารทำด้วยอิฐบล็อกสีแดงสวยงามตระการตา สูง 3 ชั้น มีความยาวกว่า 330 เมตร อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังโตเกียว อิมพีเรียล (Imperial Palace)

• วัดเซ็นโซจิ อาซากุสะ
  
  เวลาเปิดให้บริการ

  6:00 – 17:00

  ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ

  Asakusa

  ภาพโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่กลางซุ้มประตูทางเข้าวัดอีกหนึ่งภาพที่หลายคนอาจเห็นจนชินตาหลายคนเรียกวัดนี้ว่า “วัดอาซาคุซะ” หรือชื่อเต็มๆ ว่า “วัดเซ็นโซจิ (Sensoji)” บริเวณรอบๆ วัดมีร้านค้าขายสินค้าจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ถนนนากามิเสะ ซึ่งทอดยาวตั้งแต่ประตูสายฟ้าไปจนถึงบริเวณวัดสองข้างถนนเต็มไปด้วยร้านค้าเล็กๆ ขายของที่ระลึกต่างๆ เช่น พัด ภาพวาดแผ่นไม้ ชุดกิโมโน เสื้อคลุมแบบต่างๆ ม้วนภาพเขียน ขนมหวานพื้นเมือง ไปจนถึงหุ่นยนต์ของเล่น เสื้อยืด หรือของประดับโทรศัพท์มือถือ
• โตเกียว ดิสนีย์แลนด์
  
  เวลาเปิดให้บริการ

  จ.-ศ. 9:00–22:00
  ส.-อ. 8:00–22:00

  ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ

  Maihama

  สวนสนุกของดิสนีย์ขนาดใหญ่ที่เหล่าบรรดาตัวการ์ตูนขวัญใจเด็กๆ จะออกมาโลดแล่นให้ชมอย่างเพลิดเพลิน ภายในประกอบไปด้วยโซนต่างๆ มากมาย อาทิ Tomorrowland, Toontown, Fantasyland และยังมีโซนที่น่าสนใจอีกหลายโซน
• โตเกียว ดิสนีย์ซี
  
  เวลาเปิดให้บริการ

  จ.-ศ. 9:00–22:00
  ส.-อ. 8:00–22:00

  ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ

  Maihama

  ซึ่งได้แรงบันดาลใจการออกแบบจากเทพนิยายจากตำนานแห่งท้องทะเล ซึ่งภายในได้ถูกแบ่งเป็นโซนต่างๆ อาทิ ทะเลสาบนางเงือก (Mermaid Lagoon) ชายฝั่งอาราเบียน (Arabian Coast) ปากอ่าวที่สาบสูญ (Lost River Delta) เป็นต้น ซึ่งในแต่ละโซนก็ได้ถูกบรรจุเครื่องเล่นชนิดต่างๆ ไว้ตามแบบฉบับของดิสนีย์แลนด์นั่นเอง

แหล่งช้อปปิ้งในโตเกียว

• ตลาดอะเมโยโกะ (Ameyoko)
  
  ประเภทของสินค้า

  เสื้อผ้า ของกิน

  ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ

  Ueno หรือ Okachimachi

  แหล่งช้อปสำหรับทุกเพศทุกวัย มีความหลากหลายของสินค้าตั้งแต่เสื้อผ้า น้ำ ของกิน ของใช้ หรือแม้กระทั่งอาหารสดก็รวมอยู่ในตลาดแห่งนี้นั่นเอง พื้นที่รวมของตลาดแห่งถือว่าค่อนข้างใหญ่ กินบริเวณหลายซอยอาจต้องใช้เวลาเป็นวันเพื่อแวะให้ครบทุกร้าน ร้านค้าจะเริ่มเปิดร้านกันหลัง 10 โมง ไปจนถึงช่วงหัวค่ำกันเลยทีเดียว
• ไดคันยามะ (Daikanyama)
  
  ประเภทของสินค้า

  แฟชั่นวัยทำงาน แบรนด์เนม

  ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ

  Daikanyama

  ถ้าชิบูย่าคือความสดใสทันสมัยของวัยรุ่น ไดคังยามะเปรียบเหมือนวัยทำงาน ซึ่งคงความมีสไตล์+ความทันสมัยของยุคปัจจุบัน จะพบสตรีทแฟชั่นร้านค้าแบรนด์เนม อย่าง พอล สมิทธ์ (Paul Smith) เอ.เพ.เซ. (A.P.C) ฯลฯ หากเดินจนเหนื่อยคุณสามารถหาคาเฟ่สวยๆ พร้อมขนมอร่อยๆ ได้ตลอดทางเลยทีเดียว
• ชิบูยา (Shibuya)
  
  ประเภทของสินค้า

  แฟชั่นวัยรุ่น

  ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ

  Shibuya

  5 แยกชิบูย่า เป็นจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวมักไปเก็บภาพความวุ่นวายของเมืองเลยก็ว่าได้ รวมถึงรูปปั้นฮาจิโกะที่สถานีรถไฟชิบูย่าเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นย่านที่ไม่ใหญ่มากนักแต่ก็ถือว่ามีครบเรื่องแฟชั่นศูนย์กลางของความเป็นวัยรุ่น ห้างที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมได้แก่ ชิบูย่า 109 (Shibuya 109) ชิบูย่ามาร์คซิตี้ (Shibuya Mark City) ชิบูย่าฮิการิเอะ (Shibuya Hikarie) และโตคิวแฮนด์ (Tokyu Hands)

• อากิฮาบาระ (Akihabara)
  
  ประเภทของสินค้า

  มังงะ เกมส์ และ Anime

  ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ

  Akihabara

  บรรยากาศแปลกตาจากเหล่าคอสเพลย์ที่คอยสร้าง สีสันสดใสแข่งกับแสงไฟข้างทาง เป็นแหล่งมังงะ (Manga) เกมส์วีดิโอ (Video Game) แอนนิเมะ (Anime) และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ใจกลางโตเกียว สวรรค์บนดินของผู้ชื่นชอบการ์ตูน ร้านที่แนะนำให้ไปลองคือ กันดั้ม คาเฟ่ (Gundam Café) ให้บริการทั้งอาหารคาว ของหวานและเครื่องดื่มที่ตกแต่งหน้าตาที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการ์ตูนเรื่องกันดั้ม
• ฮาราจูกุ (Harajuku)
  
  ประเภทของสินค้า

  แฟชั่นวัยรุ่น

  ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ

  Harajuku

  ตั้งอยู่ระหว่างชินจูกุ และชิบูยา เป็นอีกย่านหนึ่งของญี่ปุ่นที่จะมีการแต่งชุดคอสเพลย์ ตามตัวการ์ตูนที่ชื่นชอบมีการแสดงดนตรีของวัยรุ่นตามท้องถนน ร้านค้าในย่านนี้บนถนนทาเกะชิตะ โดริ (Takeshita Dori) จะเน้นหนักไปที่เสื้อผ้าแฟชั่นวัยรุ่นทันสมัย เก๋ๆ เปรี้ยวๆ หากว่าเดินเที่ยวฮาราจูกุจนเหนื่อยแล้วล่ะก็ลองแวะไปที่สวนสาธารณะโยโยกิ (Yoyogi Park) พักผ่อนกับบรรยากาศสุดชิวอีกหนึ่งจุดของโตเกียว หรือเดนไปเยี่ยมชมศาลเจ้าเมจิ ฮาราจูกุ (Meiji Shrine / Meiji Jingu) ภายในศาลเจ้าแห่งนี้มีสวนภายในที่มีต้นไม้มากกว่า 1 แสนต้น กว่า 300 สายพันธุ์
• ชินจูกุ (Shinjuku)
  
  ประเภทของสินค้า

  แบรนด์เนมห้างสรรพสินค้า

  ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ

  Shinjuku

  ย่านชื่อดังระดับโลกที่รองรับนักท่องเที่ยวหลายล้านคนต่อปี คุณจะได้พบห้างสรรพสินค้าและร้านค้าชั้นนำมากมาย ศูนย์กลางความบันเทิงทั้งช่วงกลางวันที่สดใส และค่ำคืนอันสนุกสนาน ขยับไปอีกนิดจะได้พบกับย่านธุรกิจสำคัญของโตเกียวและ “สวนชินจูกุเกียวเอ็น” (Shinjuku Gyoen) เป็นสถานที่ที่เงียบสงบ เพื่อให้ผู้คนผ่อนคลายจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ และที่สำคัญคือเป็นแหล่งชมดอกซากุระอันดับต้นๆ ของโตเกียวในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ส่วนในช่วงใบไม้ร่วงกลางเดือนพฤศจิกายน-กลางเดือนธันวาคมก็จะได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีด้วย

ซากุระในโตเกียว

เป็นช่วงเวลาที่คนญี่ปุ่นถือว่าเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นอีกด้วย เพราะเป็นช่วงที่สิ้นสุดฤดูหนาวอันยาวนาน ดอกไม้เริ่มผลิบานเข้าสู่ฤดูแห่งการเพราะปลูกซึ่งช่วงเวลาแห่งซากุระจะเริ่มตั้งแต่มีนาคมไปจนถึงปลายเมษายนโดยจะเริ่มบานไล่ตั้งแต่ทางตอนใต้ขึ้นไปยังตอนเหนือ สำหรับโตเกียวนั้นในทุกๆดอกซากุระจะเริ่มบานประมาณช่วงต้นเดือนเมษายนไปจนถึงกลางเดือนเมษายน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี

• สวนอุเอะโนะ (Ueno Park)
  
  ค่าเข้าชม

  ฟรี

  ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ

  Ueno

  แม้ว่าจะไม่ได้เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว แต่ว่าเป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว เป็นจุดชมซากุระตั้งแต่สมัยเอโดะและถือว่าเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นหนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่ง ภายในสวนแห่งนี้มีต้นซากุระกว่าพันต้นเบ่งบานให้นักท่องเที่ยวได้เก็บบรรยากาศประทับใจอย่างเพลิดเพลินตลอดทั้งวัน
• นากะเมกุโระ (Nakameguro)
  
  ค่าเข้าชม

  ฟรี

  ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ

  Naka-meguro

  เรียบคลองเมกุโระย่านเก๋ๆ แห่งหนึ่งในโตเกียว ที่อาจจะไม่หนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวมากนัก แต่ในช่วงเวลาแห่งซากุระย่านนี้ถือเป็นย่านที่เป็นจุดหมายแห่งการถ่ายภาพของนักท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งด้วยบรรยากาศต้นซากุระตลอดสองข้างทางของคลองเมกุโระกว่าแปดร้อยต้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ย่านนี้จะเป็นอีกหนึ่งย่านที่นักท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจ
• Shinjuku Gyoen National Garden
  
  ค่าเข้าชม

  ฟรี

  ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ

  Shinjuku

  สวนสาธารณะแห่งชาติของญี่ปุ่นที่อยู่ระหว่างชินจูกุและชิบูย่า นอกจากจะเป็นที่พักผ่อนจุดสำคัญของชาวโตเกียวแล้ว ในช่วงเวลาของซากุระสวนแห่งนี้ก็เป็นอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวและชาวโตเกียวเองต่างมุ่งหน้ามาชมความงาม รวมไปถึงทานมื้อเที่ยงใต้ต้นซากุระกันอีกด้วย

• สวนสาธารณะสุมิดะ (Sumida Park)
  
  ค่าเข้าชม

  ฟรี

  ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ

  Asakusa

  ใกล้วัดเซนโซจิวัดชื่อดังของโตเกียวมีจุดชมซากุระที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อน หลังจากเยี่ยมชมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดเซนโซจิกันแล้ว ที่สวนสาธารณะริมแม่น้ำสุมิดะนั้น มีต้นซากุระที่เรียงรายไปตามแม่น้ำสุมิดะด้วยบรรยากาศของสายน้ำและดอกซากุระที่งดงาม ที่แห่งนี้จึงเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเก็บบรรยากาศและภาพสวยๆ อีกแห่งหนึ่งของโตเกียว
• สวนอิโนคาชิระ (Inokashira Park)
  
  ค่าเข้าชม

  ฟรี

  ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ

  Kichijoji

  ไม่เพียงแต่ซากุระที่น่าสนใจเท่านั้นที่นี่ยังเป็นแหล่งชมใบไม้แดงอีกด้วย ส่วนในช่วงเวลาแห่งการชมซากุระก็เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวแวะมาชมความงาม ภายในสวนนั้นมีบ่อน้ำที่เสมือนทะเลสาบขนาดย่อมอยู่ตรงกลางและมีต้นซากุระอยู่กว่าหลายร้อยต้นแข่งกันเบ่งบานอย่างสวยงาม รวมไปถึงหากใครเป็นแฟนของสตูดิโอ กิบรี (Studio Ghibli) ย่านนี้ก็ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์กิบรี (Ghibli Musuem) อีกด้วย