ยู พัทยา ที่พักสุดชิคบรรยากาศเขียวขจี

เมื่อพูดถึงเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของไทยตลอดกาลอย่างพัทยา หลายคนคงจะนึกถึงความสนุกจากสถานที่ท่องเที่ยว แสงสียามค่ำคืน และกิจกรรมสนุกๆ ที่มีให้ทำมากมายได้ทั้งวัน จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ไม่เคยหลับใหล แต่ละปีพัทยาดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากมายจากทั่วโลกให้มาพักผ่อน ที่นี่มีที่พักให้เลือกหลายหลาย แต่วันนี้เราจะพาคุณไปสัมผัสที่พักแห่งใหม่อย่าง ยู พัทยา ที่มาพร้อมกับการออกแบบสุดชิคท่ามกลางบรรยากาศเขียวขจี

รู้จักกับ ยู พัทยา  (U Pattaya)

ยู พัทยา ตั้งอยู่บนหาดระหว่างหาดจอมเทียน และหมู่บ้านประมงริมหาดบางเสร่ ก้าวแรกที่เดินเข้าโรงแรม ก็จะรับรู้ได้ทันทีถึงความร่มรื่น และสวยงามเรียบง่ายแบบชนบท แต่แฝงไปด้วยความเท่จากการออกแบบของกลุ่มสถาปนิกชื่อดังอย่าง Be Gray (ผู้อยู่เบื้องหลังคาเฟ่สุดฮิตอย่าง Casa Lapin ในกรุงเทพฯ) ที่นำเอาแนวคิดจากการที่บางเสร่ เป็นหมู่บ้านชาวประมง มาเป็นแรงบันดาลใจ และเนรมิตพื้นที่ริมชายหาดแห่งนี้ให้กลายเป็นที่พักในสไตล์หมู่บ้านชาวประมง สุดชิคขึ้นมา

สถานที่ตั้ง

ทำเลที่ตั้งของโรงแรมยู พัทยาถือว่าค่อนข้างดีทีเดียว เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ใกล้ๆ มากมาย อย่างเช่นสวนน้ำการ์ตูน เน็ตเวร์ค อเมซอน ที่ขับรถไปเพียง 1.5 กม. ก็สามารถโดดเล่นน้ำ และเครื่องเล่นใหม่ๆ ในสวนน้ำกันได้แล้ว หรืออยากหาที่ท่องเที่ยวอื่นๆในพัทยาลองพาครอบครัวเที่ยว 6 แหล่งท่องเที่ยวพัทยาเกิดใหม่ดูเพราะพัทยาไม่ได้ใหญ่โตมากนักขับรถถึงกันได้อย่างคล่องตัวแต่ก็ไม่สามารถขับรถด้วยความเร็วเต็มที่ได้นะ

ห้องพัก

แม้พื้นที่จะกะทะรัด แต่ที่นี่มีห้องพักหลากหลายรูปแบบ ทุกห้องสวยจับใจด้วยการตกแต่งในสไตล์หมู่บ้านชาวประมง ภายในห้องพักมีลูกเล่นต่างๆ ทั้งโคมไฟ และเตียงนอนที่มีเชือกผูกแบบเรือประมง มาผูกระโยงระยาง แต่ละห้องก็เก๋แตกต่างกันไป

ห้องที่วิวว้าวที่สุดเห็นจะต้องยกให้กับห้อง Beachfront Pool Villa ที่มาพร้อมกับขนาดห้องกว้างขวาง สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้พร้อมที่นั่งสุดชิวให้ได้ชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น ส่วนคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวและสะดวกสบาย ห้องพักแบบ Pool Villa ก็เยี่ยมไม่แพ้กัน เพราะมีสระว่ายน้ำส่วนตัวกว้างถึง 5 เมตร พร้อมศาลาที่นั่งให้ได้เอกเขนกได้ทั้งวัน ห้องพักที่น่าลองอีกแบบคือ Garden Villa ที่หลังคาสร้างขึ้นเป็นรูปทรงใบไม้ปิดทับด้วยวัสดุพิเศษแบบหลังคามุงจาก ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ แต่ไม่ต้องรบกวนธรรมชาติ ที่ด้านหลังของห้องพักคือห้องน้ำแบบเปิดโล่งสุดโรแมนติก มีทั้งอ่างน้ำขนาดใหญ่ และฝักบัวแบบเรน ชาวเวอร์ให้ได้ดื่มด่ำกับสายน้ำชุ่มฉ่ำได้เต็มที่

อาหารการกิน

เมื่อเก๋แล้วก็ต้องเก๋ให้สุด ห้องอาหารและบาร์ที่นี่จะทำให้ไม่อยากลุกไปไหน เริ่มตั้งแต่ Papillon ที่ตกแต่งสุดเก๋ไก๋ ด้วยโต๊ะไม้สีซีดที่แต่งเติมความสดใสด้วยสีสันของเบาะเก้าอี้ และเปลที่แขวนไว้กับเพดานซึ่งตกแต่งด้วยฟางที่พริ้วไหวตามสายลมจากทะเล ที่นี่เป็นร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสที่ใช้วัตถุดิบสดจากทะเลในการปรุงอาหาร ที่น่าลองคือสลัดเนื้อปู และยังใช้วัตถุดิบนำเข้าอย่างเนื้อวัวออสเตรเลีย หรือเนื้อแกะจากนิวซีแลนด์อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีอาหารไทยหลากหลายเมนู ตั้งแต่ต้มยำรวมมิตรทะเล จนถึงปูนิ่มผัดผงกะหรี่ หรือของหวานสุดโปรดอย่างข้าวเหนียวมะม่วงสามสี ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้คือการไปนั่งจิบค็อกเทลแก้วโปรดบนบีนแบคระหว่างรอให้ตะวันลับฟ้าในบรรยาการสุดชิวที่ Rooftop บาร์ La Vela ความเก๋อีกอย่างคือเมื่อฟ้ามืดลงแล้ว ก็จะได้เห็นประกายระยิบระยับคล้ายดวงดาวจากสระน้ำที่ติดไฟดวงเล็กเปลี่ยนสี

กิจกรรมสุดชิวริมทะเล

เริ่มตั้งแต่สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ที่ความยาวสุดสะใจถึง 45 เมตร เกือบเท่าขนาดสระโอลิมปิกเลยทีเดียว ใครที่ชอบออกกำลังกาย ที่นี่ก็มีฟิตเนสที่ตั้งอยู่ริมทะเล ให้ได้วิ่งไปมองทะเลตรงหน้าไปแบบสบายใจ ถ้าอยากสูดอากาศบริสุทธิ์ ก็สามารถลงไปวิ่งบนชายหาดได้ ชายหาดที่นี่ยาวหลายกิโลเมตร สามารถวิ่งได้ไกลเท่าที่ต้องการ

ความสะดวกสบาย

ความเก๋อีกอย่างที่เป็นซิกเนเจอร์ของเครือโรงแรมยูคือ แขกที่เข้าพักสามารถตามใจตัวเองได้ตั้งแต่ จะเลือกกินอาหารเช้าที่ไหน เวลาใดก็ได้ที่ต้องการ ไปจนถึงการเลือกหมอนว่าต้องการความหนา ความนุ่มขนาดไหน และเลือกมินิบาร์ว่าอยากจะให้ตู้เย็นมีอะไรบ้าง แถมยังมีบริการถูกใจนักเดินทางอย่างการเข้าพักแบบเต็มอิ่ม 24 ชั่วโมง ที่นับตั้งแต่เวลาเช็กอินไปจนถึงเช็กเอาต์

การเดินทาง

จากกรุงเทพฯ ใช้เวลาขับรถประมาณ 2 ชั่วโมง โดยใช้เส้นทางทางด่วนมอเตอร์เวย์ไปจนถึงทางแยกเข้าถนนสุขุมวิท ขับไปจนถึงซอยนาจอมเทียน 56 แล้วเลี้ยวเข้าซอยก่อนเลี้ยวขวาเข้าโรงแรม

คู่มือท่องเที่ยวพัทยา