เจาะลึกการขอวีซ่าอินเดีย เตรียมเที่ยวเมืองอินเทรนด์
ประเทศอินเดียนับว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศน่าเที่ยวฮอตฮิตที่สุดในตอนนี้ ด้วยสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงามอย่างในเมืองเลห์ ลาดักห์ หรือความแปลกตาของสถาปัตยกรรมโบราณที่โก้เก๋เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำกันในแต่ละเมือง อย่างเมืองชัยปุระ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดขายที่มีเสน่ห์ของประเทศอินเดีย แต่ก่อนที่เราจะไปท่องเที่ยวที่ประเทศอินเดียได้นั้น เราจะต้องศึกษาข้อมูลการเดินทางและเอกสารการขอวีซ่าให้ครบถ้วนเพื่อความสะดวกและปลอดภัยของตัวเราเองก่อน เอ็กซ์พีเดียจึงนำข้อมูลการเตรียมเอกสารและวิธีการขอวีซ่าอินเดีย รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวชิคๆ คูลๆ มาฝากเพื่อนๆ กัน
เจาะลึกการขอวีซ่าอินเดียเตรียมพร้อมเที่ยว
ภาพจาก : iStockPhoto
◆ ขั้นตอนการขอวีซ่าอินเดีย
การขอวีซ่าสำหรับการท่องเที่ยวในประเทศอินเดียนั้นสามารถทำได้ 2 วิธีคือ
1) เดินทางไปยื่นเอกสารที่ศูนย์ยื่นขอวีซ่าวีเอฟเอสที่ วีเอฟเอส โกลบอล (VFS GLOBAL Pvt. Ltd ) อาคาร PS Tower ชั้น 10 ซอยสุขุมวิท 21 วันและเวลาทำการคือ วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.30 – 14.00 น. สำหรับ การยื่นขอวีซ่า และเวลา 16.30 – 17.30 น. สำหรับการรับพาสปอร์ตคืน
2) สำหรับผู้ที่มีเวลาน้อยและไม่สะดวกเดินทางมาที่ศูนย์ ก็สามารถยื่นขอ e-Visa หรือวีซ่าออนไลน์ได้ที่นี่
ทั้ง 2 วิธีการมีเอกสารที่ต้องเตรียมดังนี้
การยื่นขอวีซ่าอินเดียที่ศูนย์ |
---|
◆ แบบฟอร์มการขอวีซ่า ให้กรอกแบบฟอร์มในหน้าเว็บของศูนย์ให้ครบแล้วพิมพ์ออกมา สามารถกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่
◆ พาสปอร์ตที่มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือนและต้องมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้าขึ้นไป ◆ รูปถ่ายสีหน้าตรงที่มีพื้นหลังสีขาว อายุไม่เกิน 3 เดือน ขนาด 2 นิ้ว X 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป ◆ เอกสารแผนการเดินทางในทริปของเราว่าจะเดินทางไปที่ไหนอย่างไรบ้าง ◆ ใบจองตั๋วเครื่องบินและที่พัก ◆ สำเนาพาสปอร์ต 2 ชุด ◆ สำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด เซ็นรับรองสำเนาถูกต้องด้วยหมึกสีดำเท่านั้น ◆ สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ชุด |
การขอ e-Visa ออนไลน์ |
---|
◆ ไฟล์ภาพสแกนพาสปอร์ตที่มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน และต้องมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้าขึ้นไป ตระกูล PDF
◆ ไฟล์รูปถ่ายสีหน้าตรงที่มีพื้นหลังสีขาว อายุไม่เกิน 3 เดือน ขนาด 2 นิ้ว x 2 นิ้ว ตระกูล JPEG ◆ ไฟล์ใบจองตั๋วเครื่องบินและที่พัก ตระกูล PDF ◆ บัตรเครดิตวีซ่า หรือมาสเตอร์การ์ดเพื่อทำการชำระค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าและการดำเนินการ |
แม้ว่าการยื่นขอวีซ่าอินเดียแบบออนไลน์ดูจะสะดวกสบายกว่า แต่ถ้าหากจุดหมายต่างๆ ที่เราต้องการจะไปนั้นอยู่ต่างแคว้นกัน (ตัวอย่างเช่น จากนิวเดลี ไปเลห์ ลาดักห์ ซึ่งมีระบบการปกครองต่างรูปแบบกัน) การดำเนินการขอวีซ่าผ่านทางศูนย์จะเก็บข้อมูลเอกสารได้ครบถ้วนและแม่นยำมากกว่าการยื่นแบบออนไลน์
◆ ค่าใช้จ่ายในการยื่นขอวีซ่าอินเดีย
ค่าใช้จ่ายในการยื่นขอวีซ่าอินเดียนั้น สามารถแยกได้ เป็น 2 ประเภท ดังนี้
1) Regular Visa : เป็นวีซ่าที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่เดินทางเข้าประเทศอินเดีย 6 เดือน สามารถเดินทางเข้า – ออกประเทศอินเดียได้หลายครั้ง ค่าใช้จ่ายประมาณ 4,100 บาท
2) e-Visa หรือวีซ่าออนไลน์ : เป็นวีซ่าที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่เดินทางเข้าประเทศอินเดีย 4 เดือน สามารถเดินทางเข้าออกได้เพียง 2 ครั้ง ค่าใช้จ่ายประมาณ 1,800 บาท
เพียงเท่านี้เราก็สามารถเตรียมเอกสารต่างๆ ได้ครบและพร้อมที่จะแพ็คกระเป๋าเดินทางออกไปท่องเที่ยวประเทศอินเดียสุดอินเทรนด์กันได้อย่างสบายใจ แต่หากเพื่อนๆ ยังคิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี เราขอยกตัวอย่างเมืองท่องเที่ยวสุดชิคในประเทศอินเดียเอาไว้เป็นข้อมูลและตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเพื่อนๆ กัน
สูงเสียดฟ้าไปกับเลห์ ลาดักห์ (Leh Ladakh)


ภาพจาก : iStockPhoto
เมืองเลห์เป็นเมืองหลวงของแคว้นลาดักห์ในรัฐแคชเมียร์ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอินเดีย เป็นเมืองที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 12,000 ฟุต ทำให้มีอากาศหนาวเย็นและมีความกดอากาศต่ำมาก ถึงแม้ว่าการท่องเที่ยวในเลห์จะค่อนข้างยากลำบาก แต่เมืองเลห์ก็มีเสน่ห์ที่น่าค้นหา ไม่ว่าจะเป็นศิลปะและสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากทางทิเบตอย่างวัดธิสิกข์ (Thiksey Monastery) หรือความสวยงามและมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอย่างทะเลสาบปันกอง (Pangong Lake) ที่ตัดรับกับภูเขาหิมะและท้องฟ้าสดใส รับรองว่างามจนเพื่อนๆ ต้องอ้าปากค้าง เรียกได้ว่าเป็นปลายทางการท่องเที่ยวที่เพื่อนๆ ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ
การเดินทาง
พักที่ไหนดี?
ถ่ายรูปชิคๆ ที่ชัยปุระ (Jaipur) นครสีชมพู


ภาพจาก : iStockPhoto
อีกเมืองหนึ่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของชาวไทยในช่วงนี้ก็คือเมืองชัยปุระ หรือที่รู้จักกันในนามของ “นครสีชมพู” เมืองชัยปุระนั้นอยู่ในรัฐราชสถาน (State of Rajasthan) ใกล้ๆ กับกรุงนิวเดลี เป็นเมืองเล็กๆ ที่สถาปัตยกรรมทาสีชมพูทั้งเมือง ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1876 เมื่อมหาราช ซาราม ซิงห์ (Maharaja Ram Singh) ออกคำสั่งให้ประชาชนทาอาคารบ้านเรือนเป็นสีชมพูเพื่อต้อนรับเจ้าชายแห่งเวลส์ในสมัยนั้น จนกลายมาเป็นเอกลักษณ์และจุดขายของเมืองชัยปุระมาจนถึงทุกวันนี้
สถาปัตยกรรมที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวเมืองชัยปุระแห่งนี้ก็คือ พระราชวังสายลม (Hawa Mahal) ซึ่งเคยเป็นฮาเร็มของมหาราช เป็นอาคารที่สร้างด้วยหินทรายสีแดง ออกแบบสถาปัตยกรรมตามแบบเปอร์เซีย ทำให้พระราชวังแห่งนี้มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ และพระราชวังฤดูร้อน (Jal Mahal) พระราชวังกลางทะเลสาบมันสกา (Man Sagar Lake) สถานที่พักร้อนสำหรับราชวงศ์ในอดีต นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจแล้ว วิถีชีวิตและอาคารบ้านเรือนของชาวเมืองก็มีเสน่ห์น่าสนใจรอให้คุณมาสัมผัสด้วยตัวเอง
การเดินทาง
พักที่ไหนดี?
ชื่นชมความยิ่งใหญ่ของจ๊อดปูร์ (Jodhpur) มหานครสีฟ้าสุดอลังการ


ภาพจาก : iStockPhoto
อีกเมืองหนึ่งที่น่าสนใจและมีเสน่ห์ไม่แพ้กับชัยปุระเลยก็คือเมืองจ๊อดปูร์ (Jodhpur) มหานครสีฟ้า เมืองจ๊อดปูร์หรือที่คนไทยเรียกกันว่า โยธะปุระ ถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของรัฐราชสถาน (State of Rajasthan) รองลงมาจากเมืองชัยปุระ เดิมทีการทาอาคารบ้านเรือนเป็นสีฟ้าเป็นที่นิยมเฉพาะในครอบครัววรรณะพราหมณ์ แต่ต่อมาชาวเมืองจ๊อดปูร์เชื่อว่าสีฟ้านั้นจะช่วยดับความร้อนในบ้านได้ ทำให้เมืองทั้งเมืองกลายเป็นสีฟ้าน้ำทะเลสดใสในที่สุด นอกจากการทาอาคารบ้านเรือนสีฟ้าจะเป็นเสน่ห์ของที่นี่แล้ว จ๊อดปูร์ยังมีโบราณสถานที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นป้อมเมห์รานการห์ (Mehrangarh Fort) หนึ่งในป้อมปราการและพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอินเดีย หรือพิพิธภัณฑ์พระราชวังอุเหมาบาวัน (Umaid Bhawan Palace) ซึ่งเป็นพระราชวังที่สร้างเสร็จเป็นลำดับสุดท้ายของประเทศก่อนที่อินเดียจะได้รับเอกราชจากประเทศอังกฤษ ถือได้ว่าเป็นอีกเมืองหนึ่งที่เพื่อนๆ สามารถเก็บภาพสวยๆ และยังได้สาระความรู้จากประวัติศาสตร์ของเมืองได้เป็นอย่างดี
การเดินทาง
พักที่ไหนดี?
นอกจากเลห์ ลาดักห์ เมืองชัยปุระและเมืองจ๊อดปูร์แล้ว ประเทศอินเดียยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากที่รอให้เพื่อนๆ ได้ออกเดินทางค้นหาและเปิดมุมมองใหม่ๆ อย่าลืมรีบขอวีซ่า จองที่พักและตั๋วเครื่องบิน แล้วไปกันเลย!
อ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม
กัมพูชาเป็นประเทศที่มีพนมเปญ (Phnom Penh) เป็นเมืองหลวงและเป็นประเทศที่น่าเที่ยวตลอดกาล แต่สำหรับใครที่หลงใหลการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ชอบดูสถาปัตยกรรมโบราณ ปราสาทเก่าแก่สวยๆ รวมไปถึงชอบศึกษาอารยธรรมโบราณและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์เราขอแนะนำให้เพื่อนๆ ไปเที่ยวที่เมืองเสียมเรียบ (Siem Reap) เพราะเมืองนี้มีโบราณสถานที่สำคัญต่อโลกหลายแห่ง อีกทั้งกัมพูชายังเป็นประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่สามารถเดินทางไปง่าย และไม่ต้องใช้วีซ่าเดินทางด้วย ดังนั้นเอ็กซ์พีเดียขอชวนเพื่อนๆ...
ไต้หวันที่เที่ยวสวย ของถูก อาหารอร่อย เอ็กซ์พีเดียเชื่อว่าเพื่อนๆ ต้องเคยได้ยินคนพูดถึงไต้หวันด้วย 3 ประโยคนี้อย่างแน่นอน ยิ่งตอนนี้ไต้หวันให้สิทธิ์ฟรีวีซ่าสำหรับคนไทยด้วย เราเลยอยากชวนเพื่อนๆ ไปเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองแบบไม่ต้องง้อทัวร์กัน จะชวนเพื่อน ชวนแฟน ชวนครอบครัวไปเที่ยวก็ได้ เพราะวันนี้เอ็กซ์พีเดียมีแพลนเที่ยวไต้หวัน 5...
มีเวลาสั้นๆ แค่ 3 วันก็สามารถไปเที่ยวต่างประเทศแบบเต็มอิ่มได้นะ โดยเฉพาะไต้หวันที่ค่าครองชีพพอๆ กับประเทศไทย อีกทั้งเพื่อนๆ สามารถเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองได้เพราะการเดินทางไม่ซับซ้อน ยิ่งเมืองหลวงอย่างไทเปก็มีรถไฟใต้ดินไปส่งถึงแหล่งกิน เที่ยว ช้อป และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทุกแห่ง ทำให้เพื่อนๆ สามารถเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองได้อย่างสบายๆ เลย...
ไต้หวันเป็นประเทศเที่ยวง่ายเพราะมีรถไฟฟ้าความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) ที่วิ่งรอบเกาะไต้หวัน ตามเมืองใหญ่ๆ ทั้งเกาะ ในเมืองก็มีรถไฟฟ้า MRT ให้บริการ อีกทั้งค่าเงินก็ถูกกว่าประเทศไทย ดังนั้นเอ็กซ์พีเดียเลยอยากชวนเพื่อนๆ ไปสัมผัสประสบการณ์การเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองดูสักครั้งตามสถานที่ท่องเที่ยวไต้หวันที่เอ็กซ์พีเดียคัดมาให้แล้วว่าเด็ด ไม่ว่าเพื่อนๆ จะเสิร์ชกูเกิ้ลคำว่าที่เที่ยวไต้หวันหรือไต้หวันที่เที่ยว รับรองว่ายังไงก็มี 10...
นารา (Nara) เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศญี่ปุ่น ในอดีตนาราเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย โดยนาราตั้งอยู่ใกล้กับเมืองเกียวโต (Kyoto) และโอซาก้า (Osaka) ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเดินทางไปเที่ยวนาราได้ด้วยการนั่งรถไฟไปโดยใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ความโดดเด่นของเมืองนาราก็คือความเก่าแก่ของวัดที่อยู่เต็มเมือง ธรรมชาติอันบริสุทธิ์ และฝูงกวางที่เราสามารถให้อาหารได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งในครั้งนี้เอ็กซ์พีเดียเองก็ไม่พลาดที่จะพาเพื่อนๆ ไปดูว่านารามีอะไรให้เราได้เที่ยวกัน...